Pantavit Lawaroungchok
ในครั้งนี้เราจะขอพูดถึงงานศิลปะ ซึ่งถือเป็นหนึ่งใน The Fifth Element องค์ประกอบสำคัญมากที่เกี่ยวพันเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันกับวัฒนธรรม Hiphop จนยากที่แยกร่างออกจากกันได้ นั่นก็คือ “กราฟฟิตี้” การวาดหรือการพ่นสีลงบนกำแพงหรือผนังเพื่อบอกเล่า ระบายสิ่งที่นึกคิด วิพากษ์วิจารณ์ ไปจนถึงการสร้างเครื่องหมายบ่งบอกถึงความเป็นเจ้าของพื้นที่ของคนในชุมชนแออัดและเด็กสลัมกลุ่มเล็กๆ ที่มักจะทำขึ้นควบคู่ไปกับการจัดแสดงดนตรี Hiphop… จากในอดีตคนในสังคมเคยปรามาส มองการกระทำเหล่านี้เป็นการรบกวน สร้างความเดือดร้อน สร้างมลพิษทางสายตา (Visual illusion) ให้กับผู้คนในเมือง… ผู้ที่เป็นศิลปินต่างต้องแอบหลบๆ ซ่อนๆ ในการสร้างผลงานแต่ละครั้ง… จนถึงขั้นจำกัดงานศิลปะแขนงนี้เป็นสัญลักษณ์ของ “อาชญากรรม” ไม่ต่างจากคนสัก Tattoo ที่คนในสังคมส่วนใหญ่ต่างมองว่าเป็นสัญลักษณ์ของ “อาชญากร” หรือ “คนขี้คุก”
ใน 20 ปีที่ผ่านมาต้องยอมรับว่าภาพของธุรกิจการค้าขายในบ้านเรา ส่วนใหญ่นั้นถูกจัดเข้ากับฟอร์แมททุนนิยมอย่าง “Modern Trade” ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจค้าปลีก ค้าส่ง ห้างสรรพสินค้า ร้านสะดวกซื้อ จนเรียกได้ว่าเป็นยุคสมัยของโมเดิร์นเทรดก็ว่าได้… คลื่นกระแสการเปลี่ยนแปลงในครั้งนั้น ส่งผลกระทบมากมายต่อวิถีชีวิตของผู้คน รูปแบบการค้าขายเดิมๆ ยกตัวอย่างเช่น ร้านขายของชำหรือแม้กระทั่งร้านอาหารสุดแสนอร่อยละแวกบ้าน ก็ต้องแปรสภาพธุรกิจ ปรับเปลี่ยนหนีตายกันไปอย่างจ้าละหวั่น… บางธุรกิจก็ล้มตาย สูญพันธุ์… ทำให้รูปแบบธุรกิจรูปแบบใหม่ๆ เกิดขึ้นมากมายเหมือนดอกไม้ที่ผุดขึ้นมาเบ่งบานจากร่องรอยแตกแยกของดินที่แห้งแล้ง… เป็นการเปลี่ยนแปลงที่เริ่มต้นมาจากการพัฒนาของสังคมเมืองและการเติบโตอย่างก้าวกระโดดของระบบทุนนิยมทั่วโลก
เราเคยตั้งคำถามมั้ยว่า “ศิลปะ” มันมีประโยชน์อะไรกับชีวิตของเรา???? หลายๆ คนยังคิดว่ามันเป็นเรื่องของคนมีอันจะกิน ของฟุ่มเฟือย และไกลตัว!!… ซึ่งแท้ที่จริง “ความคิดสร้างสรรค์” หรือแม้กระทั่งศิลปะมันอยู่รอบๆ ใกล้ตัวเรา… หน้าที่ของมันไม่ได้ทำเพียงแค่ “สร้างมูลค่าเพิ่ม” ให้กับสินค้า หรือ “ธุรกิจ” อย่างที่คนส่วนใหญ่มักจะพยายามสร้างคุณค่าให้กับงานศิลปะในความหมายเพียงอย่างเดียว… เพราะว่ามันง่ายถ้าทำให้คนส่วนใหญ่เข้าใจว่ามันสำคัญด้วยเหตุผลที่มันสามารถ “ทำเงิน” หรือสร้าง “มูลค่า” โดยมองข้าม “คุณค่า” ที่แท้จริงของมัน !!