ผักไฮโดรโปรนิกส์
การปลูกผักในระบบไฮโดรโปนิกส์เข้ามาสู่ประเทศไทยเมื่อประมาณ 10 ปีมาแล้ว โดยชาวไต้หวัน ได้แนะนำให้ผู้ประกอบการคนไทยทำเป็นการค้าที่เรียกว่า "ผักลอยฟ้า" เพื่อแก้ปัญหาการปลูกผักในดิน ที่ใช้สารเคมีกำจัดศัตรูพืชและวัชพืช ทำให้เกิดสารพิษตกค้างเป็นอันตรายต่อผู้บริโภคและตัวเกษตรกรเอง นอกจากนี้การปลูกผักในดินยังต้องใช้น้ำมาก ต้องปรับสภาพดิน และใช้ปุ๋ยเคมีสูตรต่างๆ ตามอายุผัก ส่วนไฮโดรโปนิกส์เป็นระบบการปลูกผักในสารละลายธาตุอาหารในรูปของอิออน ไม่ใช้ดิน ไม่ใช้สารกำจัดศัตรูพืช ใช้น้ำน้อย จึงเป็นการแก้ปัญหาดังกล่าว แต่ไฮโดรโปนิกส์ก็เหมาะสมกับผักบางชนิด ผักที่นิยมปลูก ได้แก่ พันธุ์ผักสลัดต่างประเทศ เช่น กรีนโอ๊ค เรดโอ๊ค บัตเตอร์เฮด ปัตตาเวีย เป็นต้น พันธุ์ผักไทย เช่น ทาไช คะน้า กวางตุ้ง ผักโขม เป็นต้น ซึ่งต้องควบคุมอุณหภูมิของสารละลายธาตุอาหารพืชให้เหมาะสมกับการเจริญเติบโตของพืชให้ดี
ผักในระบบไฮโดรโปนิกส์จะปลูกในโรงเรือนมุ้งตาข่าย ควบคุมสภาพแวดล้อมได้ ภาชนะที่ปลูกเป็นรางน้ำใส่สารละลายธาตุอาหารพืช เจาะเป็นช่องๆ วางต้นกล้าให้รากลงไปแช่ในสารละลาย ทำให้ประหยัดเนื้อที่และประหยัดน้ำมากขึ้น นอกจากนี้ต้องปั๊มอากาศเข้าไปให้ออกซิเจนแก่รากพืช เพื่อพืชใช้ในการดูดซึมอาหาร ธาตุอาหารที่พืชใช้ในการเจริญเติบโตมี 16 ชนิด แต่ที่ต้องการมากคือ คาร์บอน และออกซิเจน รวมกันประมาณ 90 % ของธาตุอาหารทั้งหมด การปลูกผักในเชิงพาณิชย์ควรเลือกพืชที่อายุเก็บเกี่ยวสั้น ได้ราคาสูง ได้พืชนอกฤดู เป็นพืชที่ปลูกยาก การนำมารับประทานควรแช่น้ำ หรืองดธาตุอาหาร 1 วันในแปลงผัก ให้แต่น้ำอย่างเดียวจะช่วยให้ผักนิ่ม กรอบ อร่อย ไม่มีธาตุอาหารตกค้าง
ปัจจุบันมีการจำหน่ายผักไฮโดรโปนิกส์ในรูปผักสดตามช่องทางต่างๆ เช่น โรงแรม รีสอร์ท ร้านอาหาร ขายปลีกตามร้านค้า ซุปเปอร์มาร์เก็ต อาจต่อยอดธุรกิจด้วยการจัดเป็นชุดสลัด กระเช้าผัก หรือจัดชุดเป็นเมนูอาหารพร้อมปรุง ฯลฯ ซึ่งน่าจะมีอนาคตทางธุรกิจที่สดใส
ดาวน์โหลดเอกสาร (pdf ขนาด 12817.69 KB)
ผักในระบบไฮโดรโปนิกส์จะปลูกในโรงเรือนมุ้งตาข่าย ควบคุมสภาพแวดล้อมได้ ภาชนะที่ปลูกเป็นรางน้ำใส่สารละลายธาตุอาหารพืช เจาะเป็นช่องๆ วางต้นกล้าให้รากลงไปแช่ในสารละลาย ทำให้ประหยัดเนื้อที่และประหยัดน้ำมากขึ้น นอกจากนี้ต้องปั๊มอากาศเข้าไปให้ออกซิเจนแก่รากพืช เพื่อพืชใช้ในการดูดซึมอาหาร ธาตุอาหารที่พืชใช้ในการเจริญเติบโตมี 16 ชนิด แต่ที่ต้องการมากคือ คาร์บอน และออกซิเจน รวมกันประมาณ 90 % ของธาตุอาหารทั้งหมด การปลูกผักในเชิงพาณิชย์ควรเลือกพืชที่อายุเก็บเกี่ยวสั้น ได้ราคาสูง ได้พืชนอกฤดู เป็นพืชที่ปลูกยาก การนำมารับประทานควรแช่น้ำ หรืองดธาตุอาหาร 1 วันในแปลงผัก ให้แต่น้ำอย่างเดียวจะช่วยให้ผักนิ่ม กรอบ อร่อย ไม่มีธาตุอาหารตกค้าง
ปัจจุบันมีการจำหน่ายผักไฮโดรโปนิกส์ในรูปผักสดตามช่องทางต่างๆ เช่น โรงแรม รีสอร์ท ร้านอาหาร ขายปลีกตามร้านค้า ซุปเปอร์มาร์เก็ต อาจต่อยอดธุรกิจด้วยการจัดเป็นชุดสลัด กระเช้าผัก หรือจัดชุดเป็นเมนูอาหารพร้อมปรุง ฯลฯ ซึ่งน่าจะมีอนาคตทางธุรกิจที่สดใส
ดาวน์โหลดเอกสาร (pdf ขนาด 12817.69 KB)