"ปิดเทอมนี้ สนุกคิด สนุกเรียนรู้ สู่อนาคต" ยกทัพ 24 กิจกรรมโดนใจเยาวชนทั่วประเทศ
คณะกรรมการบูรณาการด้านพิพิธภัณฑ์และแหล่งเรียนรู้ นำร่องโครงการใหม่ "ปิดเทอมนี้ สนุกคิด สนุกเรียนรู้ สู่อนาคต" ปูพรมจัดงานพร้อมกันทั่วประเทศ โดย 9 หน่วยงานภาครัฐ รวบรวม 24 กิจกรรม พร้อมยกระดับแหล่งเรียนรู้ ลดเหลื่อมล้ำ สู่การศึกษาในศตวรรษที่ 21
คณะกรรรมการบูรณาการด้านพิพิธภัณฑ์และแหล่งเรียนรู้ พร้อมเปิดตัวโครงการ "ปิดเทอมนี้…สนุกคิด…สนุกเรียนรู้…สู่อนาคต" อย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 25 ก.พ. 2559 ณ ลานสานฝัน อุทยานการเรียนรู้ TK park โดยมีพลอากาศเอกประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการบูรณาการด้านพิพิธภัณฑ์และแหล่งเรียนรู้ ให้เกียรติเป็นประธานในพิธี
โครงการ "ปิดเทอมนี้…สนุกคิด…สนุกเรียนรู้…สู่อนาคต" เป็น 1 ใน 5 กิจกรรมนำร่อง ของคณะกรรมการบูรณาการด้านพิพิธภัณฑ์และแหล่งเรียนรู้ ซึ่งจะจัดต่อเนื่องตลอดทั้งปี โดยเริ่มต้นตั้งแต่ช่วงปิดภาคเรียนของปี พ.ศ. 2559 นี้เป็นต้นไป มุ่งหมายให้เด็กและเยาวชนซึ่งอยู่ในวัยเรียนได้มีโอกาสเข้าร่วมสนุกแบบมี สาระกับ 24 กิจกรรมที่จัดขึ้นโดย 9 หน่วยงานหลัก ได้แก่
- องค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ (อพวช.)
- พิพิธภัณฑ์กองทัพอากาศและการบินแห่งชาติ
- องค์การสวนสัตว์ ในพระบรมราชูปถัมภ์
- องค์การสวนพฤกษศาสตร์
- ศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษา สำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบ และการศึกษาตามอัธยาศัย (กศน.)
- สำนักหอสมุดแห่งชาติ
- พิพิธภัณฑ์เด็กกรุงเทพมหานคร
- สถาบันวิจัยทางดาราศาสตร์ (องค์การมหาชน)
- สำนักงานอุทยานการเรียนรู้ หรือ TK park หน่วยงานในสังกัดสำนักงานบริหารและพัฒนาองค์ความรู้ (องค์การมหาชน) สำนักนายกรัฐมนตรี
พลอากาศเอกประจิน กล่าวว่า คณะกรรมการบูรณาการด้านพิพิธภัณฑ์และแหล่งเรียนรู้ เกิดขึ้นเนื่องมาจากการที่รัฐบาล เล็งเห็นความสำคัญของการพัฒนาและบริหารจัดการการใช้ประโยชน์จากพิพิธภัณฑ์ และแหล่งเรียนรู้ที่มีอยู่ทั่วประเทศโดยมุ่งให้บรรลุเป้าหมายสำคัญ 3 ประการ คือ ส่งเสริมการเรียนรู้ของเด็กและเยาวชน ส่งเสริมการท่องเที่ยว และส่งเสริมให้คนไทยมีจิตสำนึกรู้รักสามัคคี มีความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันจากการเรียนรู้ประวัติศาสตร์และความเป็นมาของชาติไทย
" โครงการ "ปิดเทอมนี้…สนุกคิด…สนุกเรียนรู้…สู่อนาคต" ในปีนี้ นับว่าเป็นกิจกรรมนำร่องที่สำคัญยิ่ง ตั้งเป้าหมาย เพื่อให้เด็กและเยาวชน จำนวนไม่น้อยกว่า 140,000 คน เข้าถึงแหล่งเรียนรู้อย่างทั่วถึงและเท่าเทียม ลดความเหลื่อมล้ำในสังคม เพื่อความรุ่งเรืองของการศึกษาในยุคศตวรรษที่ 21 ซึ่งเป็นยุคที่เด็กรุ่นใหม่ต้องเผชิญในสิ่งที่ท้าทาย ต้องสามารถแก้ปัญหาเป็น สื่อสารทำงานเป็นทีมได้ เพื่อเข้าสู่การเป็นแรงงานที่มีทักษะอันเป็นจุดสำคัญในการพัฒนาประเทศทั้งใน มิติ ของสังคมและเศรษฐกิจ "
กิจกรรมภายใต้โครงการ "ปิดเทอมนี้…สนุกคิด…สนุกเรียนรู้…สู่อนาคต" แบ่งออกเป็น 6 กลุ่มการเรียนรู้ ได้แก่
- ส่งเสริมการเรียนรู้ด้านวิทยาศาสตร์
- ส่งเสริมการเรียนรู้ด้านดาราศาสตร์
- ส่งเสริมการเรียนรู้ด้านความคิดสร้างสรรค์
- ส่งเสริมการเรียนรู้ด้านศิลปวัฒนธรรม
- ส่งเสริมการเรียนรู้ ด้านธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม
- ส่งเสริมนิสัยรักการอ่าน และทักษะชีวิต
โดยในแต่ละกลุ่มจะมีกิจกรรมย่อยที่หลากหลาย ที่เป็นเสมือนเครื่องมือในการส่งเสริมให้เด็กได้แสวงหาความรู้จากพิพิธภัณฑ์และแหล่งเรียนรู้ ในช่วงปิดเทอม นอกจากนั้นยังเป็นการเชื่อมโยงความร่วมมือระหว่างพิพิธภัณฑ์และแหล่งเรียนรู้ของหน่วยงานต่าง ๆ เพื่อให้เกิดการรับรู้ในวงกว้าง โดยมุ่งเน้นการส่งเสริมการพัฒนาทักษะการเรียนรู้ ทักษะการคิดอย่างมีวิจารญาณ การแก้ไขปัญหา การคิดอย่างสร้างสรรค์ การสื่อสาร และการทำงานร่วมกันเป็นทีม ตลอดจนการปลูกจิตสำนึกรู้รักสามัคคี มีน้ำหนึ่งใจเดียวกัน สามารถอยู่ร่วมกันได้ในสังคมอย่างไม่มีความขัดแย้ง
อนึ่ง คณะกรรมการบูรณาการด้านพิพิธภัณฑ์และแหล่งเรียนรู้ ตั้งขึ้นเมื่อเดือนตุลาคม 2558 โดยมีวัตถุประสงค์หลัก ในการบูรณาการด้านพิพิธภัณฑ์ และแหล่งเรียนรู้ทั่วประเทศ มีพลอากาศเอกประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน
ร่วมด้วยคณะกรรมการจาก 8 กระทรวงหลัก ได้แก่
- กระทรวงกลาโหม
- กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา
- กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์
- กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
- กระทรวงมหาดไทย
- กระทรวงวัฒนธรรม
- กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
- กระทรวงศึกษาธิการ รวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับพิพิธภัณฑ์
แหล่งเรียนรู้อีก 10 หน่วยงาน ประกอบด้วย
- กรุงเทพมหานคร
- การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย
- กรมศิลปากร
- สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ
- องค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ
- องค์การสวนพฤกษศาสตร์
- องค์การสวนสัตว์ ในพระบรมราชูปถัมภ์
- สำนักพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติ
- ศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษา
- สำนักงานบริหารและพัฒนาองค์ความรู้
ที่มา : http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=1456458093