คน 4 สี ที่เราต้องรู้จัก
ทำไมคนบางคนปรี๊ดแตก ได้ง่ายเหลือเกิน
ทำไมคนบางคนถึงพร้อมที่จะป่วนประสาทเราได้ทุกเวลา
ทำไมคนบางคนถึงชอบแวะมาคุยกับเราอยู่เรื่อยๆ
ทำไมคนบางคนถึงมาทำงานก่อนเวลาหลายชั่วโมง ในขณะที่บางคนมาทำงานตรงเวลาเป๊ะ
ทำไมเราเองคุยกับคนอื่นๆ เรื่องเดียวกัน แต่ผลออกมาต่างกันโดยสิ้นเชิง ดีบ้าง ไม่ดีบ้าง ช่างไม่เหมือนกันเอาเสียเลย
ไม่แปลก ที่เราจะรู้สึกแบบนี้ได้ทุกวัน ทุกที่ ทุกเวลา ไม่ว่าคนคนนั้นจะเป็นเพื่อน เพื่อนร่วมงาน ลูกค้า เจ้านาย ลูกน้อง กระทั่งสมาชิกในครอบครัวของเราเอง และเหตุผลง่ายๆ ที่เราไม่ทันได้นึกถึง ก็คือ
ไม่ว่าเราจะเป็นคนแบบไหน คนส่วนใหญ่ที่อยู่รอบตัวเรา ก็จะมีนิสัยเหมือนเราบ้าง ไม่เหมือนเรา บางครั้ง อาจจะต่างกันสุดขั้ว
หรือว่าปัญหาความหงุดหงิดรำคาญใจนั้น เป็นผลมาจาก “การสื่อสาร”
นั่นจึงทำให้เราอยากชวนคุณมาทำความเข้าใจทั้ง “ตัวเอง” และ “คนรอบข้าง”
แล้วตอบตัวเองให้ได้ว่า ถ้าแบ่งบุคลิกภาพเป็น 4 สี คุณและคนรอบข้างเป็นคนสีอะไร ด้วยการใช้เครื่องมือในการแบ่งบุคลิกภาพของคน โดยโธมัส เอริคสัน ผู้เชี่ยวชาญด้านพฤติกรรมมายาวนานกว่า 20 ปีจากประเทศสวีเดน แบ่งบุคลิกภาพคนตามความสนใจ และพฤติกรรมที่แตกต่าง เป็น 4 สี 4 แบบ หรือ เรียกว่า DISA ที่ย่อมาจาก
D - Dominance สีที่ใช้แทน ได้แก่ สีแดง เป็น พวกชอบควบคุม และออกคำสั่ง
I - Inducement สีที่ใช้แทน ได้แก่ สีเหลือง เป็น พวกชอบสังคม และมองโลกแง่ดี
S - Submission สีที่ใช้แทน ได้แก่ สีเขียว เป็น พวกสบายๆ เข้ากับคนง่าย และ
A - Analytical ability สีที่ใช้แทน ได้แก่ สีน้ำเงิน เป็น สายช่างคิดวิเคราะห์ มีความแม่นยำ
DISA มีที่มาจากการค้นพบทางจิตวิทยา เพื่อทำให้เราเข้าใจและรับมือคนได้ดีขึ้น ว่าจะเป็นด้านการอ่านภาษากาย การโน้มน้าวใจ การสื่อสารกันให้รู้เรื่องมากขึ้น การทำงานด้วยกันได้ดีขึ้น ไปจนถึง การจัดการความขัดแย้งที่เล็กไปจนถึงใหญ่ และที่สำคัญเรายังจะเข้าใจตัวเองได้มากขึ้น ส่วนองค์กรต่างๆ ก็ยังสามารถใช้ DISA สร้างทีมที่ลงตัวและทรงแข็งแกร่งได้อีกด้วย
เมื่อเราเข้าใจคนทั้ง 4 สี เราจะรู้วิธีเข้าถึงใจคนมากขึ้น สื่อสารเก่งขึ้น และไม่ต้องปวดหัวกับความขัดแย้งเหมือนที่ผ่านมาถ้าเป็นหัวหน้า ก็จะเข้าใจมากขึ้นว่า จะรับมือลูกน้องที่มีบุคลิกภาพไม่เหมือนกันได้อย่างไร หรือสร้างกลุ่มที่มีความเหมือนกัน หรือ ผสมผสานความแตกต่างที่หลากหลายแต่ลงตัว เพื่อประสิทธิภาพสูงสุดในการทำงาน หรือเราอาจกระชับความสัมพันธ์ส่วนตัวบนพื้นฐานของความเข้าใจกันและกันมากขึ้น
มาทำความรู้จักคนทั้ง 4 สีกัน
#คนสีแดง #dominance
คนสีแดง มาแรง! แซงทุกโค้ง ทั้งเรื่องงานเรื่องเล่น คนสีแดงจริงจัง มุ่งมั่น เสียงดังฟังชัด เป็นทั้งตัวพ่อตัวแม่
เป็นสีของผู้นำ จริงใจ กล้าแสดงออก ตรงไปตรงมา ไม่อ้อมค้อม ชอบสั่งการ คิดเร็ว ตัดสินใจเร็ว ทำทุกอย่างเร็ว ชอบงานยากๆ อยากเรียนรู้เรื่องใหม่ๆ ชอบเสนอไอเดียใหม่ๆ ชอบแข่งขัน ชอบเอาชนะ มีความสุขในช่วงเวลาที่เป็นผู้ชนะ ถึงแม้จะรู้สึกอยู่ภายในใจตัวเองคนเดียว เช่น การเดินเร็วกว่าคนอื่นๆ การได้ที่จอดรถที่ดีที่สุด การเล่นบอร์ดเกมเอาชนะเพื่อน แม้เกมสนุกแบบเด็กๆ ก็ต้องชนะเท่านั้น! อยู่นิ่งๆ ไม่เป็น มุ่งแต่จะพุ่งไปข้างหน้า แม้จะมีอุปสรรคขวางทาง ถ้าอยู่เฉย คือเสียเวลา ถือคติว่า ชีวิตคนเรามันสั้น ควรต้องลงมือทำทันที
เด่นสุดๆ คือ การสู้สุดใจ ในเวลาที่คนอื่นๆ ยอมแพ้ ถ้าได้ตั้งใจไว้แล้ว ก็ต้องทำให้สำเร็จ ถ้างานนั้นมีความสำคัญ ก็จะบุกน้ำลุยไฟทำให้สำเร็จ แต่ถ้าเป็นงานที่ไร้สาระ ก็จะไม่สนใจ และไม่มีอะไรที่น่ารำคาญมากไปกว่าความเชื่องช้า ถ้าประชุมยาวไปเรื่อยๆ ก็จะถามว่าจำเป็นไหมที่ต้องประชุมต่อไป เพราะพูดเรื่องเดิมกันมาตั้ง 20 นาทีแล้วนะ
ธรรมชาติสุดๆ กับการทุ่มเทเต็มที่ในทุกๆ งาน เราจะเห็นว่าไม่มีใครจะทำงานหนักเท่าคนสีแดง
คนสีแดง ไม่สนใจว่าคนอื่นคิดอย่างไร เพราะไม่ได้มาเพื่อเอาใจใคร แต่มาเพื่อตัวเอง สนใจแต่ผลลัพธ์ ไม่สนวิธีการ ตัดสินใจได้เร็ว สิ่งที่ยากไม่ใช่สิ่งที่ควรหลีกเลี่ยง เมื่อไหร่ที่ตั้งใจ ก็ยากที่จะหยุดได้ เมื่อไหร่ที่ตัดสินใจ ก็จะเต็มที่ คนสีแดงสื่อสารได้อย่างชัดเจน คิดเร็ว เป็นคนขี้เบื่อจึงไม่ลังเลที่จะปรับเปลี่ยนวิธีการตลอดเวลา จนคนรอบตัวไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น เกิดอยากจะเปลี่ยน ก็เปลี่ยนซะงั้น!
ถ้าสังเกตดูโต๊ะทำงานของคนสีแดง สิ่งของเกือบทั้งหมดบนโต๊ะล้วนเกี่ยวกับงาน และของจำเป็นในการดำรงชีวิตเท่านั้น ดูแล้วโล่งสุดๆ คงไม่มีตุ๊กตาน่ารัก ของเล่นกุ๊กกิ๊ก
อ้อ! หากต้องไปนำเสนองานกับคนสีแดง พูดบทสรุป เน้นๆ เนื้อ ๆ ไปเลย ถ้าน้ำท่วมทุ่งไปล่ะก็ คนสีแดงจะรู้สึกปุ่ดๆ อยู่ในใจ รีบพูด รีบจบ แล้วแยกย้ายไปทำงานต่อ!
#คนสีเหลือง #Inducement
คนสีเหลือง สดใสไฟลุก! เน้นมันเน้นสนุก ไอเดียบรรเจิด โน้มน้าวเป็นเลิศ สายครีเอทีฟทั้งนั้น
เป็นสีของคนมีเสน่ห์ มองเห็นความสุขและสนุกในทุกเรื่อง เป็นแรงบันดาลใจให้คนอื่น ขับเคลื่อนชีวิตความบันเทิงและผู้คนด้วยเสียงหัวเราะ มองเห็นวันฟ้าใส ในวันที่มืดมน คนสีเหลือง เหมือนกับคนสีแดง ที่ตัดสนใจเร็ว แต่อธิบายเหตุผลของการตัดสินใจไม่ได้ แต่รู้สึกว่า เป็นสิ่งที่ควรทำ คนสีเหลือง มักจะตัดสินใจจากความรู้สึก และสัญชาติญาณของคนสีเหลืองแม่นยำ จนไม่อาจมองข้ามได้ มีความยืดหยุ่น เปิดเผย คิด และสร้างสรรค์ ลงมือทำทันที จูงใจให้คนคล้อยตาได้เก่ง
ธรรมชาติสุดๆ คือการมองโลกในแง่ดี ช่วยให้คนอื่นมีความสุข ไม่ปล่อยให้ใครทุกข์
เด่นสุดๆ คือความสามารถในการเปลี่ยนสถานการณ์ เพราะคนสีเหลือง มองเห็นทางออกได้เร็วกว่าใคร มองเห็นทางแก้ไขปัญหาที่คนอื่นมองไม่เห็น คนสีเหลือง มีความสามารถพิเศษ ที่จะหักมุม และเปลี่ยนสถานการณ์ให้กลายเป็นดีได้ คนสีเหลือง คิดนอกกรอบ คิดกลับด้าน ไม่กลัวที่จะลองอะไรใหม่ๆ ต้องคิดไอเดียใหม่ๆ อยู่เสมอ ไม่กลัวที่จะทำสิ่งที่ไม่เคยทำมาก่อน ในตอนที่เกิดความคิดสร้างสรรค์ จะไม่ค่อยคิดถึง ระบบ ระเบียบอะไรทั้งสิ้น!
ของบนโต๊ะทำงานของคนสีเหลืองเกือบทั้งหมดจะเป็นสิ่งที่ไม่เกี่ยวกับงาน แต่อาจจะเป็นกระปุกขนมสวยๆ อุปกรณ์เครื่อง เขียนเก๋ๆ ทั้ง ปากกา โพสต์อิทสวยๆ และข้าวของเครื่องใช้ที่สร้างความสุขและบรรยากาศดีๆ ในการทำงานมากมาย
ถ้าจะต้องคุยเรื่องงานกับคนสีเหลืองล่ะก็ อ้อมไปก่อน! ทักทายเม้าท์ให้เพลินๆ แล้วค่อยเข้าประเด็นเรื่องงานล่ะก็ รับรองว่าจะลื่นไหลเลยล่ะ!
#คนสีเขียว #Submission
คนสีเขียว แม่พระมาแล้ว! ใส่ใจห่วงใยทุกคน ไม่เคยรีบเร่ง ใช้ชีวิตเรียบง่าย นี่แหล่ะ คนส่วนมาก!
เป็นสีแห่งความสงบ คนสีเขียว น่าคบ น่าเข้าหา ใจดี พึ่งได้ ง่ายๆ สบายๆ ชอบฟัง ช่างคิด ถ้าเป็นไปได้จะไม่ทำร้ายจิตใจใคร และไม่พูดเรื่องร้ายลับหลังคนอื่น มีความอดทนต่อนานาพฤติกรรมของผู้คน มักจะพยายามปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ สภาพแวดล้อม และคนอื่นๆ เป็นคนที่จะทำทุกอย่างเพื่อรักษาน้ำใจ รักษาความสัมพันธ์อันดีเอาไว้ เราคาดหวังความช่วยเหลือจากคนสีเขียวได้เป็นอย่างดีในยามจำเป็น ถ้าเป็นเด็ก เด็กสีเขียว ก็คือลูกรักที่พ่อแม่ต้องการ คือเด็กที่กินในเวลาที่ควรกิน นอนในเวลาที่ควรนอน และทำการบ้านโดยที่ไม่ต้องคอยบอก คนส่วนใหญ่มักจะเป็นคนสีเขียว เราสามารถพบคนสีเขียวได้ ในทุกที่ ทุกสถานการณ์
ธรรมชาติสุดๆ คือ ผู้ฟังที่ดีที่สุด เรียกว่าคนสีเขียวมีหูพิเศษ สำหรับรับฟังปัญหา อาจไม่ได้แนะนำทางแก้ปัญหา แต่จะเข้าใจสิ่งที่เราบอก คนสีเขียวสนใจในตัวคนอื่นมากกว่าตัวเอง ชอบช่วยเหลือคนอื่นโดยไม่ได้คาดหวังสิ่งตอบแทน จิตใจดีจนอาจถูกเอาเปรียบได้
เด่นสุดๆ คือคนที่ทำงานเป็นทีมได้ดี ทีมมาก่อนเสมอ ไม่ว่าจะเป็นครอบครัว กลุ่มเพื่อน ในสังคมที่มีคนสีเขียว ก็จะเป็นสังคมที่เต็มไปด้วยความห่วงใย การใส่ใจ และการดูแล นอกจากนี้ เมื่อไหร่ที่คนสีเขียว บอกจะทำในสิ่งที่เค้าทำได้ ก็มั่นใจได้เลยว่า จะทำจนสำเร็จ อาจไม่เร็วมาก แต่เสร็จภายในเวลาที่ตกลงกันไว้แน่นอน
ถ้าต้องคุยเรื่องงานกับคนสีเขียว อย่ากดดัน อย่าชักสีหน้า อย่ารำคาญ อ้อมนิดๆ แล้วค่อยสรุปเป็นประเด็นที่ต้องการ คืออย่ารีบพุ่งไปที่ประเด็นที่ต้องการในทันที่ อาจช้านิดหน่อย เพราะทุกการตัดสินใจ ต้องมั่นใจว่าทุกอย่างโอเค
บนโต๊ะทำงานคนสีเขียว น่าจะมีรูปครอบครัว หรือรูปกลุ่มเพื่อน หรือรูปทีมงานวางใส่กรอบหรือแปะไว้ เพราะคนสีเขียวรักทุกคนในรูป และนั่นคือกำลังใจการทำงานเลยล่ะ
#คนสีน้ำเงิน #Analytical ability
คนสีน้ำเงิน สายเป๊ะก็มา! จัดเต็มทั้ง คิด วิเคราะห์ ประเมิน อะไรไม่สมบูรณ์รับรองว่าผ่านไปยาก!
เป็นสีของคนประเภทสมบูรณ์แบบนิยม ใส่ใจคุณภาพ ต้องการข้อมูลเชิงลึกในทุกเรื่อง คิดวิเคราะห์แบบมีเหตุผล เพื่อประกอบการตัดสินใจ และมั่นใจได้ว่าถูกต้อง 100% คนสีน้ำเงินมีความสามารถในการทำงานตามลำดับขั้นตอนเป๊ะเว่อร์ และจะคอยตรวจสอบสิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้นตลอดเวลา มองโลกเผื่อกรณีเลวร้ายที่อาจเกิดขึ้นได้ มองโลกตามจริง มองเห็นความผิดพลาด มองเห็นความเสี่ยง ควบคุมอารมณ์ได้ดี ไม่ตอบสนองต่อเหตุการณ์ทันที แต่คิดอย่างรอบคอบก่อนจะออกความเห็น ถึงแม้จะรู้เยอะ แต่ไม่ค่อยพูด หรือบอกอะไรให้ใครรู้ แต่มักจะเป็นคนที่พูดถูก และให้ข้อมูลถูกต้องเสมอ
ธรรมชาติสุดๆ คือ เป็นนักตั้งคำถาม เพื่อให้มั่นใจว่าทุอย่างถูกต้อง และสมบูรณ์แบบ
ตัวอย่างเหตุการณ์ เช่น ถ้ามีคนพบว่า มีน้ำมันเลอะพื้น
คนสีแดงจะบ่นกับคนใกล้ตัว และสั่งให้ทำความสะอาดพื้นให้เรียบร้อย คนสีเหลืองอาจจะมองข้ามพื้นที่เลอะ และลืมไป จนกระทั่งเหยียบพื้นลื่นล้ม คนสีเขียวจะรู้สึกแย่ที่มองเห็นพื้นเลอะ เพราะนี่หมายความว่า มีปัญหาแต่ผู้คนไม่สนใจ
ส่วนคนสีน้ำเงิน จะเริ่มต้นตั้งคำถามก่อนเลยว่า ทำไมถึงมีน้ำมันเลอะพื้น คำตอบที่ได้อาจเพราะปะเก็นรั่ว คนสีน้ำเงิน ก็จะถามต่อว่าทำไมมันถึงรั่วได้ เพราะปะเก็นเราภาพต่ำหรือเปล่า และถามต่อไปอีกว่า ทำไมเราถึงได้มีปะเก็นเราภาพต่ำอยู่ในโรงงาน เพราะแผนกจัดซื้อต้องการประหยัดงบอย่างนั้นหรือ และสุดท้าย วิธีจัดการปัญหา อาจไปถึงการทบทวนวิธีการจัดซื้อ แทนที่จะแค่ ทำความสะอาดพื้นที่เลอะน้ำมัน
เด่นสุดๆ คือ สงบ คิดก่อนพูดเสมอ ไม่หลงกลใครง่ายๆ จะต้องตรวจสอบทุกอย่าง ใส่ใจคุณภาพของงาน
ถ้าต้องทำงานกับคนสีน้ำเงิน ต้องเตรียมข้อมูลให้มากพอ และรอบด้าน เพราะนั่นจะแสดงให้เห็นถึงกระบวนการคิดและตรรกะที่ใช้ในการตัดสินใจของเรา และต้องให้เวลาคนสีน้ำเงินในการคิด วิเคราะห์ ประเมิน ก่อน เพื่อให้ผลงานสมบูรณ์แบบขึ้นไปอีก
ส่วนโต๊ะทำงานของคนสีน้ำเงิน มีข้อมูลของงาน จัดวางข้อมูลและอุปกรณ์อย่างทุกอย่างที่จำเป็นต่อการทำงานเป๊ะ ทุกองศา อย่าไปเผลอหรือขยับของเค้าเชียว มองปร้าดเดียวจะรู้ทันทีว่าใครมาทำอะไรบนโต๊ะของชั้น และเป็นคนที่จะเอาของกลับเข้าที่เดิมให้กลับสู่ระเบียบเสมอ
ไม่มีใครสมบูรณ์แบบ
แดง คิดเร็ว และอยากที่จะลุยในทันที มักจะทำ อยากจะสร้างสิ่งต่างๆให้เกิดขึ้น แต่ก็มักจะถูกมองว่า เป็นคนชอบบงการ และทำงานด้วยยาก แดง มักจะเหยียบเท้าคนอื่นๆ อยู่เสมอ
คนสีเหลือง ก็สนุกสนานตลอดเวลา คิดสร้างสรรค์ และช่วยให้คนที่อยู่ด้วย อารมณ์ดีขึ้นได้ แต่ถ้าปล่อยให้คนสีเหลืองพูด ก็จะพูดอยู่คนเดียว ใช้ออกซิเจนในห้องนั้น จนหมด ไม่เปิดโอกาสให้คนอื่นๆ ได้พูด
คนสีเขียว ไปไหนกับใครได้ง่าย เพราะเป็นคนที่สบายๆ และคอยเป็นห่วงใยคนอื่นๆ แต่คนสีเขียวมักจะลังเล ไม่กล้าตัดสินใจเริ่มทำอะไร กลายเป็นคนที่ไม่มีจุดยืน
คนสีน้ำเงิน นั้นสงบ คิดก่อนพูดเสมอ ใส่ใจคุณภาพของงาน แต่ความที่ชอบสงสัย ชอบถามของคนสีน้ำเงินก็อาจทำให้มีปัญหากับคนรอบข้างได้
ไม่มีระบบการจัดประเภทคนแบบใดที่สมบูรณ์แบบ การจัดประเภทคนออกเป็น 4 แบบนี้ จึงเป็นเพียงจิ๊กซอว์หนึ่งของชีวิต ที่สำคัญ แต่ก็ไม่ได้บอกภาพรวมของคน
ไม่มีพฤติกรรมใดที่ถูกต้องหรือผิด ไม่มีพฤติกรรมที่เหมาะสมกว่าแบบอื่น เราแต่ละคนต่างเป็นตัวของตัวเอง ไม่จำเป็นต้องสงสัยว่าทำไมเราเป็นแบบนี้ได้อย่างไร ไม่ว่าเราจะเป็นแบบไหน แสดงออกอย่างไร ไม่ว่าคนอื่นจะมองอย่างไร มันก็ดีอยู่แล้ว ไม่ได้มีอะไรผิดปกติ
หลังจากที่เข้าใจพื้นฐานของแต่ละสีแล้ว ก็ต้องพยายามปรับคลื่นความถี่ ให้ตรงกัน ทำให้เค้ารู้สึกว่า เราเข้าใจ ทำให้เค้าเชื่อใจเรา ไว้วางใจเรา เค้าจะเห็นตัวเองอยู่ในตัวเรา ทำให้คนนั้น กลายเป็นพวกเดียวกับเรา
อย่างที่เราเห็น แต่ละสี ต่างก็มีข้อบกพร่อง มีส่วนส่งเสริมกัน ดีที่สุด คือการพบกันอยู่ตรงกลางนั่นเอง!
ทำไมคนบางคนถึงพร้อมที่จะป่วนประสาทเราได้ทุกเวลา
ทำไมคนบางคนถึงชอบแวะมาคุยกับเราอยู่เรื่อยๆ
ทำไมคนบางคนถึงมาทำงานก่อนเวลาหลายชั่วโมง ในขณะที่บางคนมาทำงานตรงเวลาเป๊ะ
ทำไมเราเองคุยกับคนอื่นๆ เรื่องเดียวกัน แต่ผลออกมาต่างกันโดยสิ้นเชิง ดีบ้าง ไม่ดีบ้าง ช่างไม่เหมือนกันเอาเสียเลย
ไม่แปลก ที่เราจะรู้สึกแบบนี้ได้ทุกวัน ทุกที่ ทุกเวลา ไม่ว่าคนคนนั้นจะเป็นเพื่อน เพื่อนร่วมงาน ลูกค้า เจ้านาย ลูกน้อง กระทั่งสมาชิกในครอบครัวของเราเอง และเหตุผลง่ายๆ ที่เราไม่ทันได้นึกถึง ก็คือ
ไม่ว่าเราจะเป็นคนแบบไหน คนส่วนใหญ่ที่อยู่รอบตัวเรา ก็จะมีนิสัยเหมือนเราบ้าง ไม่เหมือนเรา บางครั้ง อาจจะต่างกันสุดขั้ว
หรือว่าปัญหาความหงุดหงิดรำคาญใจนั้น เป็นผลมาจาก “การสื่อสาร”
นั่นจึงทำให้เราอยากชวนคุณมาทำความเข้าใจทั้ง “ตัวเอง” และ “คนรอบข้าง”
แล้วตอบตัวเองให้ได้ว่า ถ้าแบ่งบุคลิกภาพเป็น 4 สี คุณและคนรอบข้างเป็นคนสีอะไร ด้วยการใช้เครื่องมือในการแบ่งบุคลิกภาพของคน โดยโธมัส เอริคสัน ผู้เชี่ยวชาญด้านพฤติกรรมมายาวนานกว่า 20 ปีจากประเทศสวีเดน แบ่งบุคลิกภาพคนตามความสนใจ และพฤติกรรมที่แตกต่าง เป็น 4 สี 4 แบบ หรือ เรียกว่า DISA ที่ย่อมาจาก
D - Dominance สีที่ใช้แทน ได้แก่ สีแดง เป็น พวกชอบควบคุม และออกคำสั่ง
I - Inducement สีที่ใช้แทน ได้แก่ สีเหลือง เป็น พวกชอบสังคม และมองโลกแง่ดี
S - Submission สีที่ใช้แทน ได้แก่ สีเขียว เป็น พวกสบายๆ เข้ากับคนง่าย และ
A - Analytical ability สีที่ใช้แทน ได้แก่ สีน้ำเงิน เป็น สายช่างคิดวิเคราะห์ มีความแม่นยำ
DISA มีที่มาจากการค้นพบทางจิตวิทยา เพื่อทำให้เราเข้าใจและรับมือคนได้ดีขึ้น ว่าจะเป็นด้านการอ่านภาษากาย การโน้มน้าวใจ การสื่อสารกันให้รู้เรื่องมากขึ้น การทำงานด้วยกันได้ดีขึ้น ไปจนถึง การจัดการความขัดแย้งที่เล็กไปจนถึงใหญ่ และที่สำคัญเรายังจะเข้าใจตัวเองได้มากขึ้น ส่วนองค์กรต่างๆ ก็ยังสามารถใช้ DISA สร้างทีมที่ลงตัวและทรงแข็งแกร่งได้อีกด้วย
เมื่อเราเข้าใจคนทั้ง 4 สี เราจะรู้วิธีเข้าถึงใจคนมากขึ้น สื่อสารเก่งขึ้น และไม่ต้องปวดหัวกับความขัดแย้งเหมือนที่ผ่านมาถ้าเป็นหัวหน้า ก็จะเข้าใจมากขึ้นว่า จะรับมือลูกน้องที่มีบุคลิกภาพไม่เหมือนกันได้อย่างไร หรือสร้างกลุ่มที่มีความเหมือนกัน หรือ ผสมผสานความแตกต่างที่หลากหลายแต่ลงตัว เพื่อประสิทธิภาพสูงสุดในการทำงาน หรือเราอาจกระชับความสัมพันธ์ส่วนตัวบนพื้นฐานของความเข้าใจกันและกันมากขึ้น
มาทำความรู้จักคนทั้ง 4 สีกัน
#คนสีแดง #dominance
คนสีแดง มาแรง! แซงทุกโค้ง ทั้งเรื่องงานเรื่องเล่น คนสีแดงจริงจัง มุ่งมั่น เสียงดังฟังชัด เป็นทั้งตัวพ่อตัวแม่
เป็นสีของผู้นำ จริงใจ กล้าแสดงออก ตรงไปตรงมา ไม่อ้อมค้อม ชอบสั่งการ คิดเร็ว ตัดสินใจเร็ว ทำทุกอย่างเร็ว ชอบงานยากๆ อยากเรียนรู้เรื่องใหม่ๆ ชอบเสนอไอเดียใหม่ๆ ชอบแข่งขัน ชอบเอาชนะ มีความสุขในช่วงเวลาที่เป็นผู้ชนะ ถึงแม้จะรู้สึกอยู่ภายในใจตัวเองคนเดียว เช่น การเดินเร็วกว่าคนอื่นๆ การได้ที่จอดรถที่ดีที่สุด การเล่นบอร์ดเกมเอาชนะเพื่อน แม้เกมสนุกแบบเด็กๆ ก็ต้องชนะเท่านั้น! อยู่นิ่งๆ ไม่เป็น มุ่งแต่จะพุ่งไปข้างหน้า แม้จะมีอุปสรรคขวางทาง ถ้าอยู่เฉย คือเสียเวลา ถือคติว่า ชีวิตคนเรามันสั้น ควรต้องลงมือทำทันที
เด่นสุดๆ คือ การสู้สุดใจ ในเวลาที่คนอื่นๆ ยอมแพ้ ถ้าได้ตั้งใจไว้แล้ว ก็ต้องทำให้สำเร็จ ถ้างานนั้นมีความสำคัญ ก็จะบุกน้ำลุยไฟทำให้สำเร็จ แต่ถ้าเป็นงานที่ไร้สาระ ก็จะไม่สนใจ และไม่มีอะไรที่น่ารำคาญมากไปกว่าความเชื่องช้า ถ้าประชุมยาวไปเรื่อยๆ ก็จะถามว่าจำเป็นไหมที่ต้องประชุมต่อไป เพราะพูดเรื่องเดิมกันมาตั้ง 20 นาทีแล้วนะ
ธรรมชาติสุดๆ กับการทุ่มเทเต็มที่ในทุกๆ งาน เราจะเห็นว่าไม่มีใครจะทำงานหนักเท่าคนสีแดง
คนสีแดง ไม่สนใจว่าคนอื่นคิดอย่างไร เพราะไม่ได้มาเพื่อเอาใจใคร แต่มาเพื่อตัวเอง สนใจแต่ผลลัพธ์ ไม่สนวิธีการ ตัดสินใจได้เร็ว สิ่งที่ยากไม่ใช่สิ่งที่ควรหลีกเลี่ยง เมื่อไหร่ที่ตั้งใจ ก็ยากที่จะหยุดได้ เมื่อไหร่ที่ตัดสินใจ ก็จะเต็มที่ คนสีแดงสื่อสารได้อย่างชัดเจน คิดเร็ว เป็นคนขี้เบื่อจึงไม่ลังเลที่จะปรับเปลี่ยนวิธีการตลอดเวลา จนคนรอบตัวไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น เกิดอยากจะเปลี่ยน ก็เปลี่ยนซะงั้น!
ถ้าสังเกตดูโต๊ะทำงานของคนสีแดง สิ่งของเกือบทั้งหมดบนโต๊ะล้วนเกี่ยวกับงาน และของจำเป็นในการดำรงชีวิตเท่านั้น ดูแล้วโล่งสุดๆ คงไม่มีตุ๊กตาน่ารัก ของเล่นกุ๊กกิ๊ก
อ้อ! หากต้องไปนำเสนองานกับคนสีแดง พูดบทสรุป เน้นๆ เนื้อ ๆ ไปเลย ถ้าน้ำท่วมทุ่งไปล่ะก็ คนสีแดงจะรู้สึกปุ่ดๆ อยู่ในใจ รีบพูด รีบจบ แล้วแยกย้ายไปทำงานต่อ!
#คนสีเหลือง #Inducement
คนสีเหลือง สดใสไฟลุก! เน้นมันเน้นสนุก ไอเดียบรรเจิด โน้มน้าวเป็นเลิศ สายครีเอทีฟทั้งนั้น
เป็นสีของคนมีเสน่ห์ มองเห็นความสุขและสนุกในทุกเรื่อง เป็นแรงบันดาลใจให้คนอื่น ขับเคลื่อนชีวิตความบันเทิงและผู้คนด้วยเสียงหัวเราะ มองเห็นวันฟ้าใส ในวันที่มืดมน คนสีเหลือง เหมือนกับคนสีแดง ที่ตัดสนใจเร็ว แต่อธิบายเหตุผลของการตัดสินใจไม่ได้ แต่รู้สึกว่า เป็นสิ่งที่ควรทำ คนสีเหลือง มักจะตัดสินใจจากความรู้สึก และสัญชาติญาณของคนสีเหลืองแม่นยำ จนไม่อาจมองข้ามได้ มีความยืดหยุ่น เปิดเผย คิด และสร้างสรรค์ ลงมือทำทันที จูงใจให้คนคล้อยตาได้เก่ง
ธรรมชาติสุดๆ คือการมองโลกในแง่ดี ช่วยให้คนอื่นมีความสุข ไม่ปล่อยให้ใครทุกข์
เด่นสุดๆ คือความสามารถในการเปลี่ยนสถานการณ์ เพราะคนสีเหลือง มองเห็นทางออกได้เร็วกว่าใคร มองเห็นทางแก้ไขปัญหาที่คนอื่นมองไม่เห็น คนสีเหลือง มีความสามารถพิเศษ ที่จะหักมุม และเปลี่ยนสถานการณ์ให้กลายเป็นดีได้ คนสีเหลือง คิดนอกกรอบ คิดกลับด้าน ไม่กลัวที่จะลองอะไรใหม่ๆ ต้องคิดไอเดียใหม่ๆ อยู่เสมอ ไม่กลัวที่จะทำสิ่งที่ไม่เคยทำมาก่อน ในตอนที่เกิดความคิดสร้างสรรค์ จะไม่ค่อยคิดถึง ระบบ ระเบียบอะไรทั้งสิ้น!
ของบนโต๊ะทำงานของคนสีเหลืองเกือบทั้งหมดจะเป็นสิ่งที่ไม่เกี่ยวกับงาน แต่อาจจะเป็นกระปุกขนมสวยๆ อุปกรณ์เครื่อง เขียนเก๋ๆ ทั้ง ปากกา โพสต์อิทสวยๆ และข้าวของเครื่องใช้ที่สร้างความสุขและบรรยากาศดีๆ ในการทำงานมากมาย
ถ้าจะต้องคุยเรื่องงานกับคนสีเหลืองล่ะก็ อ้อมไปก่อน! ทักทายเม้าท์ให้เพลินๆ แล้วค่อยเข้าประเด็นเรื่องงานล่ะก็ รับรองว่าจะลื่นไหลเลยล่ะ!
#คนสีเขียว #Submission
คนสีเขียว แม่พระมาแล้ว! ใส่ใจห่วงใยทุกคน ไม่เคยรีบเร่ง ใช้ชีวิตเรียบง่าย นี่แหล่ะ คนส่วนมาก!
เป็นสีแห่งความสงบ คนสีเขียว น่าคบ น่าเข้าหา ใจดี พึ่งได้ ง่ายๆ สบายๆ ชอบฟัง ช่างคิด ถ้าเป็นไปได้จะไม่ทำร้ายจิตใจใคร และไม่พูดเรื่องร้ายลับหลังคนอื่น มีความอดทนต่อนานาพฤติกรรมของผู้คน มักจะพยายามปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ สภาพแวดล้อม และคนอื่นๆ เป็นคนที่จะทำทุกอย่างเพื่อรักษาน้ำใจ รักษาความสัมพันธ์อันดีเอาไว้ เราคาดหวังความช่วยเหลือจากคนสีเขียวได้เป็นอย่างดีในยามจำเป็น ถ้าเป็นเด็ก เด็กสีเขียว ก็คือลูกรักที่พ่อแม่ต้องการ คือเด็กที่กินในเวลาที่ควรกิน นอนในเวลาที่ควรนอน และทำการบ้านโดยที่ไม่ต้องคอยบอก คนส่วนใหญ่มักจะเป็นคนสีเขียว เราสามารถพบคนสีเขียวได้ ในทุกที่ ทุกสถานการณ์
ธรรมชาติสุดๆ คือ ผู้ฟังที่ดีที่สุด เรียกว่าคนสีเขียวมีหูพิเศษ สำหรับรับฟังปัญหา อาจไม่ได้แนะนำทางแก้ปัญหา แต่จะเข้าใจสิ่งที่เราบอก คนสีเขียวสนใจในตัวคนอื่นมากกว่าตัวเอง ชอบช่วยเหลือคนอื่นโดยไม่ได้คาดหวังสิ่งตอบแทน จิตใจดีจนอาจถูกเอาเปรียบได้
เด่นสุดๆ คือคนที่ทำงานเป็นทีมได้ดี ทีมมาก่อนเสมอ ไม่ว่าจะเป็นครอบครัว กลุ่มเพื่อน ในสังคมที่มีคนสีเขียว ก็จะเป็นสังคมที่เต็มไปด้วยความห่วงใย การใส่ใจ และการดูแล นอกจากนี้ เมื่อไหร่ที่คนสีเขียว บอกจะทำในสิ่งที่เค้าทำได้ ก็มั่นใจได้เลยว่า จะทำจนสำเร็จ อาจไม่เร็วมาก แต่เสร็จภายในเวลาที่ตกลงกันไว้แน่นอน
ถ้าต้องคุยเรื่องงานกับคนสีเขียว อย่ากดดัน อย่าชักสีหน้า อย่ารำคาญ อ้อมนิดๆ แล้วค่อยสรุปเป็นประเด็นที่ต้องการ คืออย่ารีบพุ่งไปที่ประเด็นที่ต้องการในทันที่ อาจช้านิดหน่อย เพราะทุกการตัดสินใจ ต้องมั่นใจว่าทุกอย่างโอเค
บนโต๊ะทำงานคนสีเขียว น่าจะมีรูปครอบครัว หรือรูปกลุ่มเพื่อน หรือรูปทีมงานวางใส่กรอบหรือแปะไว้ เพราะคนสีเขียวรักทุกคนในรูป และนั่นคือกำลังใจการทำงานเลยล่ะ
#คนสีน้ำเงิน #Analytical ability
คนสีน้ำเงิน สายเป๊ะก็มา! จัดเต็มทั้ง คิด วิเคราะห์ ประเมิน อะไรไม่สมบูรณ์รับรองว่าผ่านไปยาก!
เป็นสีของคนประเภทสมบูรณ์แบบนิยม ใส่ใจคุณภาพ ต้องการข้อมูลเชิงลึกในทุกเรื่อง คิดวิเคราะห์แบบมีเหตุผล เพื่อประกอบการตัดสินใจ และมั่นใจได้ว่าถูกต้อง 100% คนสีน้ำเงินมีความสามารถในการทำงานตามลำดับขั้นตอนเป๊ะเว่อร์ และจะคอยตรวจสอบสิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้นตลอดเวลา มองโลกเผื่อกรณีเลวร้ายที่อาจเกิดขึ้นได้ มองโลกตามจริง มองเห็นความผิดพลาด มองเห็นความเสี่ยง ควบคุมอารมณ์ได้ดี ไม่ตอบสนองต่อเหตุการณ์ทันที แต่คิดอย่างรอบคอบก่อนจะออกความเห็น ถึงแม้จะรู้เยอะ แต่ไม่ค่อยพูด หรือบอกอะไรให้ใครรู้ แต่มักจะเป็นคนที่พูดถูก และให้ข้อมูลถูกต้องเสมอ
ธรรมชาติสุดๆ คือ เป็นนักตั้งคำถาม เพื่อให้มั่นใจว่าทุอย่างถูกต้อง และสมบูรณ์แบบ
ตัวอย่างเหตุการณ์ เช่น ถ้ามีคนพบว่า มีน้ำมันเลอะพื้น
คนสีแดงจะบ่นกับคนใกล้ตัว และสั่งให้ทำความสะอาดพื้นให้เรียบร้อย คนสีเหลืองอาจจะมองข้ามพื้นที่เลอะ และลืมไป จนกระทั่งเหยียบพื้นลื่นล้ม คนสีเขียวจะรู้สึกแย่ที่มองเห็นพื้นเลอะ เพราะนี่หมายความว่า มีปัญหาแต่ผู้คนไม่สนใจ
ส่วนคนสีน้ำเงิน จะเริ่มต้นตั้งคำถามก่อนเลยว่า ทำไมถึงมีน้ำมันเลอะพื้น คำตอบที่ได้อาจเพราะปะเก็นรั่ว คนสีน้ำเงิน ก็จะถามต่อว่าทำไมมันถึงรั่วได้ เพราะปะเก็นเราภาพต่ำหรือเปล่า และถามต่อไปอีกว่า ทำไมเราถึงได้มีปะเก็นเราภาพต่ำอยู่ในโรงงาน เพราะแผนกจัดซื้อต้องการประหยัดงบอย่างนั้นหรือ และสุดท้าย วิธีจัดการปัญหา อาจไปถึงการทบทวนวิธีการจัดซื้อ แทนที่จะแค่ ทำความสะอาดพื้นที่เลอะน้ำมัน
เด่นสุดๆ คือ สงบ คิดก่อนพูดเสมอ ไม่หลงกลใครง่ายๆ จะต้องตรวจสอบทุกอย่าง ใส่ใจคุณภาพของงาน
ถ้าต้องทำงานกับคนสีน้ำเงิน ต้องเตรียมข้อมูลให้มากพอ และรอบด้าน เพราะนั่นจะแสดงให้เห็นถึงกระบวนการคิดและตรรกะที่ใช้ในการตัดสินใจของเรา และต้องให้เวลาคนสีน้ำเงินในการคิด วิเคราะห์ ประเมิน ก่อน เพื่อให้ผลงานสมบูรณ์แบบขึ้นไปอีก
ส่วนโต๊ะทำงานของคนสีน้ำเงิน มีข้อมูลของงาน จัดวางข้อมูลและอุปกรณ์อย่างทุกอย่างที่จำเป็นต่อการทำงานเป๊ะ ทุกองศา อย่าไปเผลอหรือขยับของเค้าเชียว มองปร้าดเดียวจะรู้ทันทีว่าใครมาทำอะไรบนโต๊ะของชั้น และเป็นคนที่จะเอาของกลับเข้าที่เดิมให้กลับสู่ระเบียบเสมอ
ไม่มีใครสมบูรณ์แบบ
แดง คิดเร็ว และอยากที่จะลุยในทันที มักจะทำ อยากจะสร้างสิ่งต่างๆให้เกิดขึ้น แต่ก็มักจะถูกมองว่า เป็นคนชอบบงการ และทำงานด้วยยาก แดง มักจะเหยียบเท้าคนอื่นๆ อยู่เสมอ
คนสีเหลือง ก็สนุกสนานตลอดเวลา คิดสร้างสรรค์ และช่วยให้คนที่อยู่ด้วย อารมณ์ดีขึ้นได้ แต่ถ้าปล่อยให้คนสีเหลืองพูด ก็จะพูดอยู่คนเดียว ใช้ออกซิเจนในห้องนั้น จนหมด ไม่เปิดโอกาสให้คนอื่นๆ ได้พูด
คนสีเขียว ไปไหนกับใครได้ง่าย เพราะเป็นคนที่สบายๆ และคอยเป็นห่วงใยคนอื่นๆ แต่คนสีเขียวมักจะลังเล ไม่กล้าตัดสินใจเริ่มทำอะไร กลายเป็นคนที่ไม่มีจุดยืน
คนสีน้ำเงิน นั้นสงบ คิดก่อนพูดเสมอ ใส่ใจคุณภาพของงาน แต่ความที่ชอบสงสัย ชอบถามของคนสีน้ำเงินก็อาจทำให้มีปัญหากับคนรอบข้างได้
ไม่มีระบบการจัดประเภทคนแบบใดที่สมบูรณ์แบบ การจัดประเภทคนออกเป็น 4 แบบนี้ จึงเป็นเพียงจิ๊กซอว์หนึ่งของชีวิต ที่สำคัญ แต่ก็ไม่ได้บอกภาพรวมของคน
ไม่มีพฤติกรรมใดที่ถูกต้องหรือผิด ไม่มีพฤติกรรมที่เหมาะสมกว่าแบบอื่น เราแต่ละคนต่างเป็นตัวของตัวเอง ไม่จำเป็นต้องสงสัยว่าทำไมเราเป็นแบบนี้ได้อย่างไร ไม่ว่าเราจะเป็นแบบไหน แสดงออกอย่างไร ไม่ว่าคนอื่นจะมองอย่างไร มันก็ดีอยู่แล้ว ไม่ได้มีอะไรผิดปกติ
หลังจากที่เข้าใจพื้นฐานของแต่ละสีแล้ว ก็ต้องพยายามปรับคลื่นความถี่ ให้ตรงกัน ทำให้เค้ารู้สึกว่า เราเข้าใจ ทำให้เค้าเชื่อใจเรา ไว้วางใจเรา เค้าจะเห็นตัวเองอยู่ในตัวเรา ทำให้คนนั้น กลายเป็นพวกเดียวกับเรา
อย่างที่เราเห็น แต่ละสี ต่างก็มีข้อบกพร่อง มีส่วนส่งเสริมกัน ดีที่สุด คือการพบกันอยู่ตรงกลางนั่นเอง!
ร่วมแลกเปลี่ยนความคิดเห็น
เงื่อนไข การร่วมแสดงความคิดเห็น
1. ห้ามเสนอข้อความหรือเนื้อหาอันเป็นการวิพากษ์วิจารณ์หรือพาดพิงสถาบันพระมหากษัตริย์และราชวงศ์ เป็นอันขาด
2. ห้ามเสนอข้อความหรือเนื้อหาที่ส่อไปในทางหยาบคาย ก้าวร้าว ... (อ่านทั้งหมด)