OKMD กระตุกต่อมคิด สำนักงานบริหารและพัฒนาองค์ความรู้ - Opportunity for All
กระตุกต่อมคิด เพื่อพัฒนาความคิด เพิ่มความรู้ สร้างสรรค์ภูมิปัญญา

รถยนต์ไฟฟ้า ทางเลือกใหม่ของคนหัวใจสีเขียว

4217 | 11 มิถุนายน 2564
รถยนต์ไฟฟ้า ทางเลือกใหม่ของคนหัวใจสีเขียว
จากรายงานของกรมอุตุนิยมวิทยาโลก (WMO) พบว่า ระหว่างปี ค.ศ. 2011-2020 นับได้ว่าเป็นทศวรรษที่ร้อนที่สุด และในระหว่างปี ค.ศ. 2015-2020 ที่ผ่านมายังเป็นช่วง 6 ปีที่ร้อนที่สุดของโลกด้วย 

นอกจากนี้ ยังมีการคาดการณ์ว่า ในอนาคต โลกยังคงจะร้อนขึ้นได้อีกอย่างน้อยปีละ 1 องศาเซลเซียส ทำให้เกิดสภาวะแปรปรวนของภูมิอากาศ

สาเหตุหนึ่งมาจากพฤติกรรมหรือกิจกรรมของมนุษย์ ไม่ว่าจะเป็นการตัดไม้ทำลายป่า การใช้พลังงานเชื้อเพลิงจากถ่านหิน น้ำมัน ก๊าซธรรมธรรมชาติ การปล่อยของเสียจากโรงงานอุตสาหกรรม รวมไปถึงการคมนาคมขนส่ง ที่เป็นตัวเร่งให้เกิดการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และภาวะโลกร้อน

ความกังวลเกี่ยวกับภาวะโลกร้อน จึงกลายเป็นปัญหาใหญ่ที่ทั่วโลกให้ความสำคัญ และหลายฝ่ายต่างออกมารณรงค์ให้มีการตระหนักถึงปัญหาดังกล่าว พร้อมทั้งออกมาตรการที่เป็นรูปธรรม เพื่อช่วยกันลดภาวะโลกร้อน และนโยบายหนึ่งที่หลายประเทศเห็นพ้องต้องกันว่า จะเป็นแนวทางที่ช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ด้วยการลดและงดใช้รถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์สันดาปภายใน ที่เป็นตัวการสำคัญของก๊าซเรือนกระจก ไปสู่การใช้รถยนต์ไฟฟ้า รถยนต์จากพลังงานสะอาด

ประเทศไทยเป็นอีกหนึ่งประเทศที่ขานรับกับนโยบายด้านพลังงานนี้ จึงได้ส่งเสริมการผลิตและการใช้รถยนต์ไฟฟ้า โดยได้มีเป้าหมายให้ประเทศไทยเป็นฐานการผลิตยานยนต์ไฟฟ้าและชิ้นส่วนที่สำคัญของโลก รวมถึงมีการใช้ยานยนต์ไฟฟ้ารวมทุกประเภท ได้แก่ รถยนต์นั่ง รถปิคอัพ รถจักรยานยนต์ รถบัส รถบรรทุก ในปี ค.ศ. 2025 รวมจำนวนทั้งสิ้น 1.05 ล้านคัน และด้วยเหตุผลนี้เอง ทำให้ค่ายการผลิตยานยนต์ในประเทศไทย เริ่มผลิตรถยนต์ไฟฟ้าแทนการผลิตเครื่องยนต์ที่ใช้น้ำมันเชื้อเพลิง

รถยนต์ไฟฟ้า คืออะไร?
รถยนต์ไฟฟ้า หรือ รถยนต์ EV (Electric Vehicle) คือรถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าแทนการใช้เครื่องยนต์ น้ำมันหรือพลังงานอื่นๆ ที่มีการเผาไหม้ โดยใช้พลังงานไฟฟ้าที่ถูกเก็บไว้ในแบตเตอรี่หรืออุปกรณ์เก็บพลังงานไฟฟ้า แปลงพลังงานมาใช้ในการขับเคลื่อน ซึ่งด้วยการทำงานของมอเตอร์ไฟฟ้า ทำให้การขับเคลื่อนรถยนต์ไฟฟ้าไม่มีเสียงดัง และไม่มีไอเสียจากการเผาไหม้พลังงาน 

นับได้ว่า รถยนต์ไฟฟ้าเป็นรถที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ทั้งจากมลพิษทางอากาศและมลพิษทางเสียง เพราะใช้แบตเตอรี่ในการขับเคลื่อนมอเตอร์ไฟฟ้า และไม่มีการเผาไหม้เชื้อเพลิงเพื่อใช้ในระบบขับเคลื่อน จึงจะไม่มีการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ประกอบกับในการชาร์จแบตเตอรี่แต่ละครั้ง ก็เป็นการชาร์จจากพลังงานไฟฟ้าที่ถือว่าเป็นพลังงานสะอาด

นอกจากรถยนต์ไฟฟ้าจะเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมแล้ว ยังจะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายที่จะต้องจ่ายไปกับ ค่าซ่อมบำรุงรักษา เพราะเป็นรถที่ไม่มีเครื่องยนต์จึงไม่ต้องเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง ทำให้การดูแลรักษาง่ายกว่า แถมยังช่วยประหยัดค่าน้ำมันเชื้อเพลิง อีกด้วย

รถยนต์ไฟฟ้าที่มีการใช้งานกันในปัจจุบัน มีหลากหลายซึ่งสามารถแบ่งออกได้เป็นประเภท ดังนี้
  1. รถยนต์พลังงานไฟฟ้า (EV) เป็นการใช้พลังงานไฟฟ้าจากแบตเตอรี่เพียงอย่างเดียว ไม่มีเครื่องยนต์สันดาปภายใน สามารถชาร์จไฟได้สม่ำเสมอ โดยใช้เวลาชาร์จประมาณ 6-8 ชั่วโมง สำหรับการชาร์จปกติ หรือ 2-4 ชั่วโมง สำหรับการชาร์จแบบเร็ว
  2. อี พาวเวอร์ (E-Power) เป็นเทคโนโลยีที่มีการผสมผสานการทำงานระหว่างระบบ Hybrid กับ EV ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า โดยมีเครื่องยนต์ขนาดเล็กทำหน้าที่ปั่นกระแสไฟฟ้าเก็บไว้ที่แบตเตอรี่ แล้วส่งพลังงานไปยังมอเตอร์ไฟฟ้า 
  3. รถยนต์ไฟฟ้าไฮบริด (HEV) มีรูปแบบการทำงานที่ใช้น้ำมันเชื้อเพลิงร่วมกับพลังงานไฟฟ้า ระบบจะทำงานเองอัตโนมัติ โดยมอเตอร์จะช่วยออกตัวด้วยระบบไฟฟ้า ก่อนที่เครื่องยนต์จะทำงานต่อ หากในกรณีรถติดหรือรถหยุดนิ่ง ถ้ารถมีแบตเตอรี่มากพอเครื่องยนต์จะดับ แล้วดึงไฟจากแบตเตอรี่มาใช้กับอุปกรณ์ต่างๆ เช่น ไฟหน้ารถ แอร์ เครื่องเสียง
  4. รถยนต์ไฟฟ้าปลั๊ก-อิน ไฮบริด (PHEV) เป็นรูปแบบหนึ่งของรถยนต์ไฟฟ้าประเภทไฮบริด ผสานระหว่างเครื่องยนต์เบนซินหรือดีเซล เข้ากับแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ที่ชาร์จไฟได้ สามารถวิ่งได้โดยใช้พลังงานไฟฟ้าจากแบตเตอรี่อย่างเดียว และยังสามารถกลับมาใช้ระบบไฮบริดที่ใช้ทั้งน้ำมันและไฟฟ้าได้
  5. รถพลังงานไฮโดรเจน (Fuel Cell) เป็นการใช้พลังงานไฮโดรเจนที่เป็นพลังงานสะอาด มาแปลงเป็นกระแสไฟฟ้าเพื่อนำไปขับเคลื่อนรถยนต์ โดยในโครงสร้างจะมีแผงเซลล์เชื้อเพลิงที่เก็บไฮโดรเจนในรูปแบบของเหลว มอเตอร์ไฟฟ้าทำหน้าที่ขับเคลื่อนควบคู่กับการชาร์จกระแสไฟฟ้าและแบตเตอรี่ 
  6. รถยนต์ไฟฟ้าแบบใช้แหล่งพลังงานไฟฟ้าอย่างเดียว (Plug-in Electric Vehicle: PEVS) จะคล้ายกับรถยนต์ไฟฟ้าแบบ PHEV แต่จะมีแบตเตอรี่ขนาดใหญ่เป็นแหล่งพลังงานหลักเพียงอย่างเดียว เมื่อแบตเตอรี่หมดจะต้องเสียบปลั๊กเพื่อชาร์จประจุใหม่ 
จะเห็นได้ว่า ผลพวงจากกระแสความตื่นตัวเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงทางสภาพอากาศของโลกและภาวะโลกร้อน ทำให้หลายคนหันมาตระหนักและให้ความสำคัญกับเรื่องปัญหาสิ่งแวดล้อมมากขึ้น ซึ่งทางเลือกหนึ่งที่เราสามารถช่วยโลกได้ ก็คือ เลือกใช้รถยนต์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม






ที่มาของข้อมูล:
https://www.thaigov.go.th/news/contents/details/40325
https://www.bangkokbiznews.com/news/detail/929106
https://www.magcarzine.com/history-of-ev-007/
https://thomasthailand.co/innovation/%E0%B8%A3%E0%B8%96%E0%B8%A2%E0%B8%99%E0%B8%95%E0%B9%8C%E0%B9%84...
https://www.kia.com/th/discover-kia/ask/are-electric-cars-better-for-the-environment.html
https://www.nissan.co.th/experience-nissan/Nissan-EV/how-EV-work.html
https://www.krungsri.com/th/plearn-plearn/ev-car-trend-and-case-study-from-Japan
https://www.greennetworkthailand.com/%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%98%E0%B8%B5-%E0%B8%A5%E0%B8%94%E0%B9%8...

ร่วมแลกเปลี่ยนความคิดเห็น

เงื่อนไข การร่วมแสดงความคิดเห็น

"โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น"
1. ห้ามเสนอข้อความหรือเนื้อหาอันเป็นการวิพากษ์วิจารณ์หรือพาดพิงสถาบันพระมหากษัตริย์และราชวงศ์ เป็นอันขาด
2. ห้ามเสนอข้อความหรือเนื้อหาที่ส่อไปในทางหยาบคาย ก้าวร้าว ... (อ่านทั้งหมด)