OKMD กระตุกต่อมคิด สำนักงานบริหารและพัฒนาองค์ความรู้ - Opportunity for All
กระตุกต่อมคิด เพื่อพัฒนาความคิด เพิ่มความรู้ สร้างสรรค์ภูมิปัญญา

5 แหล่ง เที่ยว-เรียน-รู้ สุดคลาสิก

1400 | 20 สิงหาคม 2564
5 แหล่ง เที่ยว-เรียน-รู้ สุดคลาสิก
การเที่ยวชมแหล่งเรียนรู้อย่างพิพิธภัณฑ์ หรือห้องสมุด ซึ่งนับเป็นสถานที่เที่ยว-เรียน-รู้ ที่สำคัญ รวบรวบหนังสือ เรื่องราว และวัตถุมีค่าที่บางชิ้นเกินกว่าจะประเมินได้ อีกทั้งยังเป็นสถานที่ที่มีไว้สำหรับจัดแสดงนิทรรศการและสิ่งต่างๆ ที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ ศิลปะ วัฒนธรรม วิทยาการ ตั้งแต่อดีตจนปัจจุบันอีกด้วย พิพิธภัณฑ์และห้องสมุดระดับโลกที่มีประวัติอันยาวนานล้วนมีคุณค่าเกินกว่าจะประเมินได้ แต่ละสถานที่ล้วนเต็มไปด้วยความน่าตื่นเต้น งดงาม อลังการ และเป็นสถานที่สำคัญของโลก ที่ถ้ามีโอกาสควรได้ไปสัมผัส และเห็นด้วยตาตนเองสักครั้ง 
 
วันนี้เราไปดู 5 แหล่ง เที่ยว-เรียน-รู้ ที่สำคัญระดับโลก ที่ในชีวิต ควรไปเยือนสักครั้ง อย่างน้อยก็ 1 ใน 5 เพื่อความรู้ ความสุข และความรื่นรมย์ระหว่างการเดินทาง 

1. พิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ (Musée du Louvre) กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส 
หากพูดถึงพิพิธภัณฑ์ที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในโลก เก่าแก่มากที่สุด และใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก แน่นอนว่าหนึ่งในนั้นต้องเป็นพิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ (Musée du Louvre) ซึ่งตั้งอยู่ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส เป็นพิพิธภัณฑ์ที่เก็บรวบรวมงานศิลปะอันทรงคุณค่าจากทั่วโลก ที่จัดแสดงอยู่ภายในพิพิธภัณฑ์กว่า 35,000 ชิ้น อย่างเช่น ภาพวาดโมนาลิซา ผลงานของจิตรกรเอกฝีมือระดับโลก ลีโอนาโด ดาวินซี และอีกหนึ่งไฮไลท์ของพิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ที่มีชื่อเสียงไม่แพ้ผลงานศิลปะที่จัดแสดงนั่นก็คือ “พีระมิดแก้ว” ออกแบบโดยสถาปนิกชาวอเมริกันเชื้อสายจีนชื่อดังนามว่า I.M. Pei รวมถึงผลงานสถาปัตยกรรมเก่าแก่อีกมากมาย


Photo by Léo Nguyen on Unsplash


Photo by Free Birds on Unsplash

พิพิธภัณฑ์ลูฟวร์มีผู้เข้าชมมากถึง 7.4 ล้านคน ในปี 2016 ที่ผ่านมา 9.3 ล้านคนในปี 2013 และมากที่สุดถึง 9.7 ล้านคนในปี 2012 และเป็นสถานที่ที่มีนักท่องเที่ยวมาเยือนมากที่สุดในกรุงปารีส

2. พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ธรรมชาติแห่งชาติ (National Museum of Natural History) 
หากใครยังจำภาพยนตร์เรื่อง “Night at the museum” คงจะคุ้นกับภาพบรรยากาศของพิพิธภัณฑ์ในภาพยนตร์เกือบตลอดทั้งเรื่อง นั่นก็คือ “National Museum of Natural History” ที่กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. สหรัฐอเมริกา พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ถูกสร้างในปี ค.ศ.1910  ถือเป็นพิพิธภัณฑ์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุด ในบรรดาพิพิธภัณฑ์ในเครือสถาบันสมิธโซเนียน (Smithsonian Institution) ซึ่งเป็นสถาบันวิจัย สถาบันการศึกษา และพิพิธภัณฑ์ บริหารจัดการโดยรัฐบาลสหรัฐอเมริกา ก่อตั้งด้วยวัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มพูนและเผยแพร่ความรู้ให้แก่ประชาชนและนักท่องเที่ยว ภายในพิพิธภัณฑ์มีรายละเอียดของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมตั้งแต่อดีต การสำรวจสิ่งมีชีวิตในยุคโบราณซึ่งรวมถึงพวกไดโนเสาร์ มีโครงกระดูกไดโนเสาร์ของจริงหลายสายพันธุ์  นิทรรศการเกี่ยวกับสัตว์ป่า สัตว์ใต้ท้องทะเล การแสดงข้อมูลเกี่ยวกับอัญมณี และยังมีการจัดแสดงนิทรรศที่น่าสนใจหลายอย่าง เช่น นิทรรศการการสำรวจสิ่งมีชีวิตยุคโบราณ นิทรรศการของเรื่องดาราศาสตร์และฟิสิกส์ที่มีให้ชมกันอย่างละเอียด เป็นต้น หากใครมีโอกาสได้ไปเยือนกรุงวอชิงตันดีซีแล้วล่ะก็ ไม่ควรพลาดที่จะไปชมความยิ่งใหญ่อลังการของพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ธรรมชาติแห่งนี้  มีผู้เข้าชมมากที่สุดสูงถึง 7.1 ล้านคน ในปี 2016


Photo by Alejandro Barba on Unsplash

3. Natural History Museum หรือ พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ทางธรรมชาติในเมืองลอนดอน
เป็นอีกหนึ่งในแหล่งเรียนรู้สำคัญที่มีความโดดเด่น และเต็มไปด้วยความน่าตื่นตาตื่นใจ หากใครได้ไปเยือนกรุงลอนดอนแล้ว ไม่ควรรพลาดอย่างเด็ดขาด Natural History Museum ก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 1881 เป็นพิพิธภัณฑ์ที่รวบรวมหลักฐานและชิ้นส่วนสำคัญทางประวัติศาสตร์ของโลกที่เก่าแก่หลายล้านปี ตั้งแต่ยุคไดโนเสาร์ดึกดำบรรพ์ จัดแสดงอยู่ภายในอาคารที่สวยงามราวกับพระราชวัง เริ่มตั้งแต่ วิวัฒนาการของมนุษย์ การกำเนิดโลก การเกิดภูเขาไฟและแผ่นดินไหว สัตว์ปีก สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม และแมลงสายพันธุ์ต่างๆ เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีเรื่องราวของบุคคลสำคัญในแวดวงวิทยาศาสตร์นั่นก็คือ  Charles Darwin และสุดยอดไฮไลท์ที่ได้รับความสนใจจากผู้ที่มาเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์แห่งนี้อย่างมาก ก็คือ โซนไดโนเสาร์ เรียกได้ว่าในแต่ละโซนของพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ มีความน่าสนใจที่แตกต่างกันออกไป ที่สำคัญยังได้ความรู้ใหม่ๆ เปิดโลกทัศน์ให้กับตัวเองอีกด้วย


Photo by Michael D Beckwith on Unsplash

4. หอสมุดแห่งชาติออสเตรีย (Austrian National Library) 
เป็นหอสมุดสไตล์บารอคที่งดงามตั้งอยู่ภายในพระราชวังฮอฟบวร์ก (Hofburg Palace) สร้างโดยพระเจ้า Charles ที่ 6 แห่งราชวงศ์ฮอฟบวร์ก เพื่อใช้เป็นห้องสมุดแห่งราชสำนักเมื่อศตวรรษที่ 18 หอสมุดแห่งนี้เป็นสถานที่ซึ่งเก็บรวบรวมหนังสือไว้มากที่สุดในประเทศออสเตรีย และยังเป็นหอสมุดที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป ปัจจุบันหอสมุดที่สวยงามและอลังการแห่งนี้ได้ถูกพัฒนาให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมอีกแห่งหนึ่งเช่นเดียวกับพระราชวังใหญ่ๆ ของเวียนนา  ภายในหอสมุดแห่งชาติออสเตรียมี State Hall อันโอ่อ่าที่สร้างด้วยหินอ่อน ประดับประดาอย่างสวยงามด้วยรูปปั้นแกะสลัก เพดานมีลักษณะเป็นโดมโค้งตกแต่งอย่างวิจิตรงดงามด้วยจิตรกรรมฝาผนัง ฝีมือของจิตรกรคือแดเนียล แกรน (Daniel Gran) โดยภายในหอสมุดแห่งนี้เต็มไปด้วยหนังสือต่างๆ ที่เรียงรายตามชั้นวางมากกว่า 200,000 เล่ม บางเล่มมีอายุเก่าแก่มาตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 14 รวมทั้งคอลเล็กชันหนังสือ 15,000 เล่มที่ทำด้วยทองคำ ซึ่งครั้งหนึ่งเคยนำมาจากห้องสมุดเจ้าชายยูจีนแห่งซาวอย (Eugene of Savoy's library)


Photo by Jörg Bauer on Unsplash

ภายในห้องสมุดนี้ยังมีพิพิธภัณฑ์ที่น่าสนใจ 4 แห่ง ได้แก่ พิพิธภัณฑ์ปาปิรัส (Papyrus Museum)  พิพิธภัณฑ์ภาษาโลก (Esperanto Museum) พิพิธภัณฑ์ลูกโลก พิพิธภัณฑ์วรรณกรรม และยังมีส่วนจัดที่แสดงกระดาษเขียนโน้ตเพลงแผ่นแรกๆ ของบรรดาคีตกวีเอกแห่งวงการเพลงคลาสสิกของโลกเอาไว้ด้วย

5. ห้องอ่านหนังสือรอยัลโปรตุเกส (Royal Portuguese Reading Room) ของรีโอ เด จาเนโร ประเทศบราซิล
ไม่ค่อยมีใครกล่าวถึงห้องสมุดในริโอ แต่ที่นี่คือห้องสมุดที่อลังการราวกับพระราชวัง ภายนอกสร้างด้วยหินโดยได้รับแรงบันดาลใจจากวัด Jerónimos ที่มีชื่อเสียงในกรุงลิสบอน ประเทศโปรตุเกส การตกแต่งภายในสุดวิจิตร การออกแบบแบบ “นีโอ-มานูเอลไลน์” Neo-Manueline ที่ว่ากันว่าเป็นต้นแบบของศิลปะ และสถาปัตยกรรมสไตล์ “โกธิค-เรเนซองส์” Gothic-Renaissance ที่เกิดขึ้นในช่วงรุ่งเรืองของโปรตุเกสนั่นเอง มีหน้าต่างกระจกสีแดง ขาว และน้ำเงิน เปิดรับแสงธรรมชาติจากเพดาน หนังสือเรียงรายบนชั้นราวกับฉากในเทพนิยาย สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยที่บราซิลยังอยู่ใต้การปกครองของโปรตุเกส และเป็นแหล่งรวมหนังสือโปรตุเกสที่ใหญ่ที่สุดนอกประเทศโปรตุเกส ห้องทั้งห้องเต็มไปด้วยหนังสือ และมีมีหนังสือเก่าแก่ที่หายากจากศตวรรษที่ 16 เก็บเอาไว้ถึง 350,000 เล่ม สถานที่แห่งนี้เป็นสถานที่ยอดเยี่ยมสำหรับท่านที่รักที่จะอยู่ท่ามกลางหนังสือที่สวยงาม


Photo by Willian Luiz on Pexels

คงจะดีไม่น้อย ถ้าประเทศไทยของเราจะมีพิพิธภัณฑ์การเรียนรู้แห่งชาติที่ผู้คนนิยม หลั่งไหลและพร้อมเดินทางมาเยี่ยมชมในทุกๆ ปี เหมือนกับเหล่า 5 แหล่ง เที่ยว-เรียน-รู้ สุดคลาสิกนี้ และนี่เป็นเรื่องที่เราทุกคนต้องร่วมกันผลักดันต่อไป 

ร่วมแลกเปลี่ยนความคิดเห็น

เงื่อนไข การร่วมแสดงความคิดเห็น

"โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น"
1. ห้ามเสนอข้อความหรือเนื้อหาอันเป็นการวิพากษ์วิจารณ์หรือพาดพิงสถาบันพระมหากษัตริย์และราชวงศ์ เป็นอันขาด
2. ห้ามเสนอข้อความหรือเนื้อหาที่ส่อไปในทางหยาบคาย ก้าวร้าว ... (อ่านทั้งหมด)