19 ปี แห่งความประทับใจกับ OKMD
ในโอกาสที่ OKMD เดินทางมาครบ 19 ปี มาร่วมเฉลิมฉลองไปกับเรื่องราวความประทับใจของเหล่าลูกหม้อชาว OKMD กับ นา ชุติมา เต็มรังษี รินทร์ ไพรินทร์ สุดตา และ อี๊ด ศรินดา จันทรเกิด พวกเขาจะมาบอกเล่าความประทับใจที่มีต่อองค์กรที่มีอายุครบ 19 ปีเต็ม ในวันนี้กัน
ความประทับใจในมุมมองต่างๆ กับ 19 ของการทำงานที่ OKMD ยุคของการก่อตั้ง กับ อี๊ด ศรินดา จันทรเกิด
การได้เติบโตมาพร้อมกับ OKMD ตลอด 19 ปี ได้เห็นการเปลี่ยนแปลงในแต่ละช่วงยุคสมัย ได้เห็นนโยบายสำคัญๆ หรือผลผลิตสำคัญๆ ที่ตอบโจทย์ประชาชน ในช่วงก่อตั้ง OKMD จะเน้นงานด้านการเป็น Missing Link เชื่อมโยงองค์ความรู้ บริหารจัดการให้มีการขยายผลอย่างกว้างขวางและครอบคลุมทั่วประเทศ เน้นงานด้านวิจัยเพื่อมาสนับสนุนงานนโยบายของรัฐบาลในยุคนั้น อาทิ ศูนย์ซ่อมสร้างเพื่อชุมชน (Fix it Center) โดยให้นักศึกษาอาชีวศึกษาทั้งภาครัฐ/เอกชนได้ฝึกปฏิบัติจริงในการออกให้บริการชุมชน ให้ความรู้ วิธีการใช้งาน การซ่อมบำรุงเครื่องมือเครื่องจักร อุปกรณ์ต่างๆ ที่ใช้ในการประกอบอาชีพ เพื่อลดรายจ่ายของประชาชน และดำเนินการส่งมอบหมายให้กระทรวงศึกษาธิการ โดยสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา ดำเนินการตามภารกิจต่อไป อีกทั้งศึกษาวิจัยเกี่ยวกับเทรนด์อนาคตเพื่อสร้างองค์ความรู้ และสร้างอาชีพให้กับประชาชน
รวมถึงเป็นองค์กรที่มีความหลากหลายทางด้านองค์ความรู้ ในด้านความคิดสร้างสรรค์ การอ่าน การเรียนรู้ ประวัติศาสตร์ วิทยาศาสตร์ การเสาะหาและส่งเสริมผู้มีความสามารถพิเศษ (คนหัวแหลม) และคุณธรรม โดยมีหน่วยงานเฉพาะด้าน 7 หน่วยงาน ที่ดำเนินงานตามภารกิจดังกล่าวประกอบด้วย สำนักงานศูนย์สร้างสรรค์งานออกแบบ สำนักงานอุทยานการเรียนรู้ สถาบันพิพิธภัณฑ์การเรียนรู้แห่งชาติ ศูนย์ส่งเสริมผู้มีความสามารถพิเศษแห่งชาติ สถาบันวิทยาการการเรียนรู้ ศูนย์ความเป็นเลิศด้านชีววิทยาศาสตร์ของประเทศไทย และศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาพลังแผ่นดินเชิงคุณธรรม
เป็นหน่วยงานของรัฐที่มีความคล่องตัวในการบริหารจัดการระดับหนึ่ง ซึ่งขับเคลื่อนโดยคณะกรรมการ ในช่วงก่อตั้งหน่วยงานเฉพาะด้านจะมีคณะกรรมการในการบริหารจัดการ ซึ่งผลงานแต่ละหน่วยงานจึงเป็นผลงานเชิงประจักษ์ และเฉพาะด้าน อาทิ อุทยานการเรียนรู้ (TK Park) ที่มีวิสัยทัศน์ในการจัดตั้ง “สวนสนุกทางปัญญา และแหล่งรวมตัวแห่งใหม่ของเด็กและวัยรุ่นที่รักการอ่าน การเรียนรู้ และสร้างสรรค์ปัญญาในรูปแบบต่าง ๆ” ซึ่งถือเป็นหน่วยงานแรกๆ ที่มีรูปแบบการบริหาร และการเรียนรู้ด้วยตนเอง เล่นอย่างเพลิดเพลิน และคิดอย่างสร้างสรรค์ ทำให้เกิดเป็นความประทับใจกับองค์กร ซึ่งถือว่าเป็นองค์การมหาชนแรกที่มีหน่วยงานเฉพาะด้านที่หลากหลาย ต่อมาหน่วยงานเฉพาะด้านไหนบรรลุเป้าหมายตามภารกิจก็ยุบรวมหรือแยกไปจัดตั้งเป็นองค์การมหาชนใหม่ อาทิ ศูนย์คุณธรรม ศูนย์ความเป็นเลิศด้านชีววิทยาศาสตร์ และสำนักงานศูนย์สร้างสรรค์งานออกแบบ ซึ่งปัจจุบันเป็นสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์
สโลแกนของหน่วยงานคือกระตุกต่อมความคิด เป็นการกระตุกต่อมผู้คน และคิดนอกกรอบ ในด้านการเรียนรู้ และองค์ความรู้ต่างๆ ซึ่งเป็นแนวคิดใหม่ และการเรียนรู้ที่อยู่นอกระบบการศึกษา ทำให้เกิดความคิดอย่างสร้างสรรค์ และสามารถสร้างแรงบันดาลใจและต่อยอดในสิ่งที่เป็นรูปธรรมให้กับประชาชน
สุดท้ายคือความผูกพันกับ OKMD เพราะถือว่าได้อยู่ในทุกยุคทุกสมัย จึง ได้พบปะผู้คนหลากหลาย ทำให้มีประสบการณ์ต่างๆ ที่ก้าวผ่านไปทีละขั้น ฝึกฝนและฟูมฟักให้เกิดความคิดสรรค์ในการทำงาน จึงอยากจะเห็น OKMD เติบโตและเมื่อพูดถึง OKMD หรือ หน่วยงานภายใน ประชาชนรับรู้และรู้จัก OKMD มากขึ้น และมีความสำคัญอย่างไรกับประชาชน ซึ่งจะถือเป็นรากฐานสำคัญสู่การยกระดับสังคมไทยให้เป็นสังคมแห่งการเรียนรู้ตลอดชีวิต (A Lifelong Learning Society)
เพราะความรู้ คือโอกาส
ความประทับใจที่ได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในครอบครับ OKMD กับ นา ชุติมา เต็มรังษี
ย้อนไปในปี 2548 ซึ่งเป็นปีแรกที่ดิฉันได้มีโอกาสเข้ามาร่วมงานกับ OKMD ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ก่อตั้งขึ้นมาได้เพียง 1 ปีในขณะนั้น นับเป็นช่วงเริ่มต้นขององค์กรที่ทุกอย่างกำลังก้าวย่างเข้าสู่การทำงานด้านการส่งเสริมให้สังคมไทยเป็นสังคมแห่งการเรียนรู้ตลอดชีวิต เรามีหน่วยงานภายในที่มีหน้าที่ในการส่งเสริมการเรียนรู้ในหลากหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นการสร้างต้นแบบแหล่งเรียนรู้รูปแบบใหม่ การสร้างนวัตกรรมการเรียนรู้รูปแบบต่างๆ การส่งเสริมให้เด็กและเยาวชนได้มีช่องทางการเรียนรู้ที่สร้างสรรค์ การส่งเสริมให้คนไทยสามารถต่อยอดสินค้าและบริการให้มีมูลค่าที่สูงขึ้น หรือแม้กระทั่งการสร้างเสริมทัศนคติให้คนไทยมีคุณธรรม ส่งเสริมให้นำความเก่งเรียน เก่งรู้ มาใช้ประโยชน์ในทางที่สร้างสรรค์ ซึ่งปัจจุบันหน่วยงานภายในหลายๆ หน่วย ก็สามารถแยกตัวไปเพื่อสร้างกิ่งก้านสาขาขยายองค์ความรู้ให้เพิ่มมากขึ้น ซึ่งล้วนแต่เป็นประโยชน์ต่อการเรียนรู้ในสังคมไทยทั้งสิ้น
การทำงานในเรื่องการส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดช่วงชีวิต เป็นงานที่มีเป้าหมายค่อนข้างกว้าง และต้องใช้เวลาในการสร้างผลลัพธ์ให้จับต้องได้ ความมุ่งมั่นที่จะทำให้คนอื่นเห็นความสำคัญขององค์กรของเรา จึงไม่ใช่เรื่องง่ายเลย แต่ทีมงานทุกคนมีเป้าหมายการทำงานที่ชัดเจน ต่างมุ่งมั่นทำงานในสิ่งที่ตนเองรับผิดชอบ และดูเหมือนทุกคนจะรักและผูกพันกับงานของตนเองเพิ่มมากเรื่อยๆ การทำงานที่ได้เห็นผู้ใช้บริการเข้ามาใช้บริการหรือเข้าร่วมกิจกรรมต่างๆ ที่พวกเราตั้งใจจัดขึ้นอย่างมีความสุข และได้รับประโยชน์กลับไป เป็นความภาคภูมิใจของพวกเราทุกๆ คน
กว่า 19 ปี ของการจัดตั้งองค์กรขึ้นมา ปัจจุบันงานของ OKMD ได้ขยายพื้นที่ให้บริการ และสร้างเครือข่ายความร่วมมือไปยังภูมิภาคต่างๆ ได้อย่างมากมาย การถ่ายทอดองค์ความรู้ผ่านทางออนไลน์ ก็สามารถเข้าถึงประชาชนได้ง่ายขึ้นและรวดเร็วขึ้น ซึ่งนั่นหมายถึงว่าปัจจุบัน OKMD มีครอบครัวที่มีขนาดใหญ่ขึ้นมาก “การฝ่าฟันอุปสรรคต่างๆ ในการทำงานร่วมกันของเจ้าหน้าที่ที่เป็นเหมือนพี่น้อง ที่มีความผูกพัน สามัคคี และมีเป้าหมายเดียวกัน ซึ่งคือการสร้างสรรค์องค์ความรู้ให้แก่ประชาชน จึงเป็นสิ่งประทับใจในการทำงาน ณ สถานที่แห่งนี้” การทำงานแล้วสามารถสร้างประโยชน์ให้แก่สังคม ไม่ว่าจะมากหรือน้อย หรือเราอาจจะเป็นเพียงแค่จุดเริ่มต้นเล็กๆ ก็สามารถทำให้เรารู้สึกมีคุณค่ามากขึ้นได้ในแต่ละวัน ดิฉันยังคงมีความเชื่อมั่นว่าการทำงานกับองค์กรแห่งนี้จะยังคงมีความสนุกและมีความท้าทายในบทบาทหน้าที่ ที่พวกเราชาว OKMD ทุกคนจะต้องหมั่นพัฒนาตัวเองและก้าวให้ทันกับการเปลี่ยนแปลงของสังคมไทยในบริบทต่างๆ เพื่อพัฒนาและสร้างเสริมงานของเราให้ดียิ่งขึ้นไปเรื่อยๆ
ความประทับใจในการทำงานที่ OKMD ตลอด 19 ปี ของบ้านหลังที่ 2 กับ รินทร์ ไพรินทร์ สุดตา
ช่วงของการก่อตั้ง OKMD ในระยะแรกเริ่มหน่วยงานจะตั้งอยู่ที่ตึกบัญชาการ 2 ทำเนียบรัฐบาล และย้ายมาที่เซ็นทรัลเวิลด์ในเวลาต่อมา ปัจจุบันตั้งอยู่ที่อาคารชุดมิว บิลดิ้ง (วิทยาลัยการจัดการ มหาวิทยาลัยมหิดล) ชั้น 18 - 19 วันแรกที่เริ่มทำงานใน OKMD เป็นช่วงของ อ.พันศักดิ์ วิญญรัตน์ เป็นประธานกรรมการและปฎิบัติหน้าที่ ผอ.OKMD ในยุคนั้นคำว่า “องค์การมหาชน” ถือเป็นเรื่องใหม่มาก เพราะยังไม่มีความชัดเจนเท่าหน่วยงานราชการและรัฐวิสาหกิจ ส่วนตัวยังสงสัยว่าเป็นของหน่วยเอกชนหรือเปล่า
สำหรับเจ้าหน้าที่ OKMD ในยุคก่อตั้งจะถูกยืมตัวมาจากหน่วยงานต่าง ๆ ของรัฐเข้ามาช่วยงาน เช่น ด้านงบประมาณมาจากสำนักงบประมาณ ด้านพัสดุมาจากสำนักนายกรัฐมนตรี เข้ามาสร้างทีมในการขับเคลื่อนงาน ซึ่งช่วงแรก พี่พร คุณพัชราภร ทองประไพ เป็นผู้สอนงาน โดยจะสอนงานด้านต่าง ๆ และดูแล อ.พันศักดิ์ เป็นหลัก เนื่องจากช่วงนั้นท่านรับผิดชอบหลายตำแหน่งหน้าที่ ในเวลาต่อมาได้มีโอกาสทำงานกับคุณศุภสิริ เสนาฤทธิ์ ซึ่งเป็นผู้อำนวยการฝ่ายการอำนวยการในสมัยนั้น ซึ่งความประทับใจในระหว่างการทำงานที่ OKMD คือการอยู่ร่วมกันแบบครอบครัว ช่วยเหลือกันฉันพี่น้อง ทุกคนจะช่วยเหลือเกื้อกูลซึ่งกันและกัน ไม่มีการแบ่งฝ่าย ส่วนไหนช่วยกันได้ก็จะช่วยเหลือกัน โดยมุ่งผลสัมฤทธิ์ให้องค์กรก้าวไปข้างหน้า อย่าง อ.พันศักดิ์ เองก็จะลงมาพบแปะเจ้าหน้าที่ทุกส่วนงานเพื่อดูความเรียบร้อย ในตอนนั้นมีเจ้าหน้าที่ไม่มาก มีฝ่ายกฎหมาย ฝ่ายยุทธศาสตร์และแผน ฝ่ายอำนวยการ ส่วนงานการเงินและงานบุคคลจะอยู่ภายใต้ฝ่ายอำนวยการ
ในส่วนการทำงานของตนเอง จะเน้นการเรียนรู้เนื้องานและข้อมูลต่าง ๆ ที่ไหลเวียนภายในองค์กรโดยภาพรวม หากมีการต่อติดหรือสอบถามจากบุคคลหรือหน่วยงานภายนอก ก็จะสามารถตอบคำถามหรือข้อสงสัยเกี่ยวกับองค์กรได้ทันที นั่นหมายความว่าเราได้เรียนรู้สิ่งใหม่อยู่ตลอดเวลา
19 ปี ในบ้านหลังนี้ เราใช้ชีวิตและเวลาอยู่ที่ทำงานมากกว่าอยู่ที่บ้าน OKMD จึงเสมือนเป็นบ้านหลังที่สองโดยปริยายและทุกชีวิตก็หลอมรวมเป็นครอบครัวเดียวกันไปแล้ว หากวันนึ่งต้องลาจากกันก็คงใจหาย เพราะทุกคนล้วนกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต สำหรับในอนาคตคงอยากเห็นหน่วยงานของเราเป็นที่รู้จักและยอมรับในวงกว้างมากขึ้น และตัวเองรวมถึงชาว OKMD ทุกคน ก็พร้อมจะปรับตัวเพื่อให้องค์กรก้าวไปข้างหน้า เท่าทันกับการเปลี่ยนแปลงของโลกในปัจจุบัน
ความประทับใจในมุมมองต่างๆ กับ 19 ของการทำงานที่ OKMD ยุคของการก่อตั้ง กับ อี๊ด ศรินดา จันทรเกิด
การได้เติบโตมาพร้อมกับ OKMD ตลอด 19 ปี ได้เห็นการเปลี่ยนแปลงในแต่ละช่วงยุคสมัย ได้เห็นนโยบายสำคัญๆ หรือผลผลิตสำคัญๆ ที่ตอบโจทย์ประชาชน ในช่วงก่อตั้ง OKMD จะเน้นงานด้านการเป็น Missing Link เชื่อมโยงองค์ความรู้ บริหารจัดการให้มีการขยายผลอย่างกว้างขวางและครอบคลุมทั่วประเทศ เน้นงานด้านวิจัยเพื่อมาสนับสนุนงานนโยบายของรัฐบาลในยุคนั้น อาทิ ศูนย์ซ่อมสร้างเพื่อชุมชน (Fix it Center) โดยให้นักศึกษาอาชีวศึกษาทั้งภาครัฐ/เอกชนได้ฝึกปฏิบัติจริงในการออกให้บริการชุมชน ให้ความรู้ วิธีการใช้งาน การซ่อมบำรุงเครื่องมือเครื่องจักร อุปกรณ์ต่างๆ ที่ใช้ในการประกอบอาชีพ เพื่อลดรายจ่ายของประชาชน และดำเนินการส่งมอบหมายให้กระทรวงศึกษาธิการ โดยสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา ดำเนินการตามภารกิจต่อไป อีกทั้งศึกษาวิจัยเกี่ยวกับเทรนด์อนาคตเพื่อสร้างองค์ความรู้ และสร้างอาชีพให้กับประชาชน
รวมถึงเป็นองค์กรที่มีความหลากหลายทางด้านองค์ความรู้ ในด้านความคิดสร้างสรรค์ การอ่าน การเรียนรู้ ประวัติศาสตร์ วิทยาศาสตร์ การเสาะหาและส่งเสริมผู้มีความสามารถพิเศษ (คนหัวแหลม) และคุณธรรม โดยมีหน่วยงานเฉพาะด้าน 7 หน่วยงาน ที่ดำเนินงานตามภารกิจดังกล่าวประกอบด้วย สำนักงานศูนย์สร้างสรรค์งานออกแบบ สำนักงานอุทยานการเรียนรู้ สถาบันพิพิธภัณฑ์การเรียนรู้แห่งชาติ ศูนย์ส่งเสริมผู้มีความสามารถพิเศษแห่งชาติ สถาบันวิทยาการการเรียนรู้ ศูนย์ความเป็นเลิศด้านชีววิทยาศาสตร์ของประเทศไทย และศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาพลังแผ่นดินเชิงคุณธรรม
เป็นหน่วยงานของรัฐที่มีความคล่องตัวในการบริหารจัดการระดับหนึ่ง ซึ่งขับเคลื่อนโดยคณะกรรมการ ในช่วงก่อตั้งหน่วยงานเฉพาะด้านจะมีคณะกรรมการในการบริหารจัดการ ซึ่งผลงานแต่ละหน่วยงานจึงเป็นผลงานเชิงประจักษ์ และเฉพาะด้าน อาทิ อุทยานการเรียนรู้ (TK Park) ที่มีวิสัยทัศน์ในการจัดตั้ง “สวนสนุกทางปัญญา และแหล่งรวมตัวแห่งใหม่ของเด็กและวัยรุ่นที่รักการอ่าน การเรียนรู้ และสร้างสรรค์ปัญญาในรูปแบบต่าง ๆ” ซึ่งถือเป็นหน่วยงานแรกๆ ที่มีรูปแบบการบริหาร และการเรียนรู้ด้วยตนเอง เล่นอย่างเพลิดเพลิน และคิดอย่างสร้างสรรค์ ทำให้เกิดเป็นความประทับใจกับองค์กร ซึ่งถือว่าเป็นองค์การมหาชนแรกที่มีหน่วยงานเฉพาะด้านที่หลากหลาย ต่อมาหน่วยงานเฉพาะด้านไหนบรรลุเป้าหมายตามภารกิจก็ยุบรวมหรือแยกไปจัดตั้งเป็นองค์การมหาชนใหม่ อาทิ ศูนย์คุณธรรม ศูนย์ความเป็นเลิศด้านชีววิทยาศาสตร์ และสำนักงานศูนย์สร้างสรรค์งานออกแบบ ซึ่งปัจจุบันเป็นสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์
สโลแกนของหน่วยงานคือกระตุกต่อมความคิด เป็นการกระตุกต่อมผู้คน และคิดนอกกรอบ ในด้านการเรียนรู้ และองค์ความรู้ต่างๆ ซึ่งเป็นแนวคิดใหม่ และการเรียนรู้ที่อยู่นอกระบบการศึกษา ทำให้เกิดความคิดอย่างสร้างสรรค์ และสามารถสร้างแรงบันดาลใจและต่อยอดในสิ่งที่เป็นรูปธรรมให้กับประชาชน
สุดท้ายคือความผูกพันกับ OKMD เพราะถือว่าได้อยู่ในทุกยุคทุกสมัย จึง ได้พบปะผู้คนหลากหลาย ทำให้มีประสบการณ์ต่างๆ ที่ก้าวผ่านไปทีละขั้น ฝึกฝนและฟูมฟักให้เกิดความคิดสรรค์ในการทำงาน จึงอยากจะเห็น OKMD เติบโตและเมื่อพูดถึง OKMD หรือ หน่วยงานภายใน ประชาชนรับรู้และรู้จัก OKMD มากขึ้น และมีความสำคัญอย่างไรกับประชาชน ซึ่งจะถือเป็นรากฐานสำคัญสู่การยกระดับสังคมไทยให้เป็นสังคมแห่งการเรียนรู้ตลอดชีวิต (A Lifelong Learning Society)
เพราะความรู้ คือโอกาส
ความประทับใจที่ได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในครอบครับ OKMD กับ นา ชุติมา เต็มรังษี
ย้อนไปในปี 2548 ซึ่งเป็นปีแรกที่ดิฉันได้มีโอกาสเข้ามาร่วมงานกับ OKMD ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ก่อตั้งขึ้นมาได้เพียง 1 ปีในขณะนั้น นับเป็นช่วงเริ่มต้นขององค์กรที่ทุกอย่างกำลังก้าวย่างเข้าสู่การทำงานด้านการส่งเสริมให้สังคมไทยเป็นสังคมแห่งการเรียนรู้ตลอดชีวิต เรามีหน่วยงานภายในที่มีหน้าที่ในการส่งเสริมการเรียนรู้ในหลากหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นการสร้างต้นแบบแหล่งเรียนรู้รูปแบบใหม่ การสร้างนวัตกรรมการเรียนรู้รูปแบบต่างๆ การส่งเสริมให้เด็กและเยาวชนได้มีช่องทางการเรียนรู้ที่สร้างสรรค์ การส่งเสริมให้คนไทยสามารถต่อยอดสินค้าและบริการให้มีมูลค่าที่สูงขึ้น หรือแม้กระทั่งการสร้างเสริมทัศนคติให้คนไทยมีคุณธรรม ส่งเสริมให้นำความเก่งเรียน เก่งรู้ มาใช้ประโยชน์ในทางที่สร้างสรรค์ ซึ่งปัจจุบันหน่วยงานภายในหลายๆ หน่วย ก็สามารถแยกตัวไปเพื่อสร้างกิ่งก้านสาขาขยายองค์ความรู้ให้เพิ่มมากขึ้น ซึ่งล้วนแต่เป็นประโยชน์ต่อการเรียนรู้ในสังคมไทยทั้งสิ้น
การทำงานในเรื่องการส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดช่วงชีวิต เป็นงานที่มีเป้าหมายค่อนข้างกว้าง และต้องใช้เวลาในการสร้างผลลัพธ์ให้จับต้องได้ ความมุ่งมั่นที่จะทำให้คนอื่นเห็นความสำคัญขององค์กรของเรา จึงไม่ใช่เรื่องง่ายเลย แต่ทีมงานทุกคนมีเป้าหมายการทำงานที่ชัดเจน ต่างมุ่งมั่นทำงานในสิ่งที่ตนเองรับผิดชอบ และดูเหมือนทุกคนจะรักและผูกพันกับงานของตนเองเพิ่มมากเรื่อยๆ การทำงานที่ได้เห็นผู้ใช้บริการเข้ามาใช้บริการหรือเข้าร่วมกิจกรรมต่างๆ ที่พวกเราตั้งใจจัดขึ้นอย่างมีความสุข และได้รับประโยชน์กลับไป เป็นความภาคภูมิใจของพวกเราทุกๆ คน
กว่า 19 ปี ของการจัดตั้งองค์กรขึ้นมา ปัจจุบันงานของ OKMD ได้ขยายพื้นที่ให้บริการ และสร้างเครือข่ายความร่วมมือไปยังภูมิภาคต่างๆ ได้อย่างมากมาย การถ่ายทอดองค์ความรู้ผ่านทางออนไลน์ ก็สามารถเข้าถึงประชาชนได้ง่ายขึ้นและรวดเร็วขึ้น ซึ่งนั่นหมายถึงว่าปัจจุบัน OKMD มีครอบครัวที่มีขนาดใหญ่ขึ้นมาก “การฝ่าฟันอุปสรรคต่างๆ ในการทำงานร่วมกันของเจ้าหน้าที่ที่เป็นเหมือนพี่น้อง ที่มีความผูกพัน สามัคคี และมีเป้าหมายเดียวกัน ซึ่งคือการสร้างสรรค์องค์ความรู้ให้แก่ประชาชน จึงเป็นสิ่งประทับใจในการทำงาน ณ สถานที่แห่งนี้” การทำงานแล้วสามารถสร้างประโยชน์ให้แก่สังคม ไม่ว่าจะมากหรือน้อย หรือเราอาจจะเป็นเพียงแค่จุดเริ่มต้นเล็กๆ ก็สามารถทำให้เรารู้สึกมีคุณค่ามากขึ้นได้ในแต่ละวัน ดิฉันยังคงมีความเชื่อมั่นว่าการทำงานกับองค์กรแห่งนี้จะยังคงมีความสนุกและมีความท้าทายในบทบาทหน้าที่ ที่พวกเราชาว OKMD ทุกคนจะต้องหมั่นพัฒนาตัวเองและก้าวให้ทันกับการเปลี่ยนแปลงของสังคมไทยในบริบทต่างๆ เพื่อพัฒนาและสร้างเสริมงานของเราให้ดียิ่งขึ้นไปเรื่อยๆ
ความประทับใจในการทำงานที่ OKMD ตลอด 19 ปี ของบ้านหลังที่ 2 กับ รินทร์ ไพรินทร์ สุดตา
ช่วงของการก่อตั้ง OKMD ในระยะแรกเริ่มหน่วยงานจะตั้งอยู่ที่ตึกบัญชาการ 2 ทำเนียบรัฐบาล และย้ายมาที่เซ็นทรัลเวิลด์ในเวลาต่อมา ปัจจุบันตั้งอยู่ที่อาคารชุดมิว บิลดิ้ง (วิทยาลัยการจัดการ มหาวิทยาลัยมหิดล) ชั้น 18 - 19 วันแรกที่เริ่มทำงานใน OKMD เป็นช่วงของ อ.พันศักดิ์ วิญญรัตน์ เป็นประธานกรรมการและปฎิบัติหน้าที่ ผอ.OKMD ในยุคนั้นคำว่า “องค์การมหาชน” ถือเป็นเรื่องใหม่มาก เพราะยังไม่มีความชัดเจนเท่าหน่วยงานราชการและรัฐวิสาหกิจ ส่วนตัวยังสงสัยว่าเป็นของหน่วยเอกชนหรือเปล่า
สำหรับเจ้าหน้าที่ OKMD ในยุคก่อตั้งจะถูกยืมตัวมาจากหน่วยงานต่าง ๆ ของรัฐเข้ามาช่วยงาน เช่น ด้านงบประมาณมาจากสำนักงบประมาณ ด้านพัสดุมาจากสำนักนายกรัฐมนตรี เข้ามาสร้างทีมในการขับเคลื่อนงาน ซึ่งช่วงแรก พี่พร คุณพัชราภร ทองประไพ เป็นผู้สอนงาน โดยจะสอนงานด้านต่าง ๆ และดูแล อ.พันศักดิ์ เป็นหลัก เนื่องจากช่วงนั้นท่านรับผิดชอบหลายตำแหน่งหน้าที่ ในเวลาต่อมาได้มีโอกาสทำงานกับคุณศุภสิริ เสนาฤทธิ์ ซึ่งเป็นผู้อำนวยการฝ่ายการอำนวยการในสมัยนั้น ซึ่งความประทับใจในระหว่างการทำงานที่ OKMD คือการอยู่ร่วมกันแบบครอบครัว ช่วยเหลือกันฉันพี่น้อง ทุกคนจะช่วยเหลือเกื้อกูลซึ่งกันและกัน ไม่มีการแบ่งฝ่าย ส่วนไหนช่วยกันได้ก็จะช่วยเหลือกัน โดยมุ่งผลสัมฤทธิ์ให้องค์กรก้าวไปข้างหน้า อย่าง อ.พันศักดิ์ เองก็จะลงมาพบแปะเจ้าหน้าที่ทุกส่วนงานเพื่อดูความเรียบร้อย ในตอนนั้นมีเจ้าหน้าที่ไม่มาก มีฝ่ายกฎหมาย ฝ่ายยุทธศาสตร์และแผน ฝ่ายอำนวยการ ส่วนงานการเงินและงานบุคคลจะอยู่ภายใต้ฝ่ายอำนวยการ
ในส่วนการทำงานของตนเอง จะเน้นการเรียนรู้เนื้องานและข้อมูลต่าง ๆ ที่ไหลเวียนภายในองค์กรโดยภาพรวม หากมีการต่อติดหรือสอบถามจากบุคคลหรือหน่วยงานภายนอก ก็จะสามารถตอบคำถามหรือข้อสงสัยเกี่ยวกับองค์กรได้ทันที นั่นหมายความว่าเราได้เรียนรู้สิ่งใหม่อยู่ตลอดเวลา
19 ปี ในบ้านหลังนี้ เราใช้ชีวิตและเวลาอยู่ที่ทำงานมากกว่าอยู่ที่บ้าน OKMD จึงเสมือนเป็นบ้านหลังที่สองโดยปริยายและทุกชีวิตก็หลอมรวมเป็นครอบครัวเดียวกันไปแล้ว หากวันนึ่งต้องลาจากกันก็คงใจหาย เพราะทุกคนล้วนกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต สำหรับในอนาคตคงอยากเห็นหน่วยงานของเราเป็นที่รู้จักและยอมรับในวงกว้างมากขึ้น และตัวเองรวมถึงชาว OKMD ทุกคน ก็พร้อมจะปรับตัวเพื่อให้องค์กรก้าวไปข้างหน้า เท่าทันกับการเปลี่ยนแปลงของโลกในปัจจุบัน
ร่วมแลกเปลี่ยนความคิดเห็น
เงื่อนไข การร่วมแสดงความคิดเห็น
1. ห้ามเสนอข้อความหรือเนื้อหาอันเป็นการวิพากษ์วิจารณ์หรือพาดพิงสถาบันพระมหากษัตริย์และราชวงศ์ เป็นอันขาด
2. ห้ามเสนอข้อความหรือเนื้อหาที่ส่อไปในทางหยาบคาย ก้าวร้าว ... (อ่านทั้งหมด)