น้ำมันงาสกัดเย็น
“งา” เป็นพืชน้ำมันที่สำคัญทางเศรษฐกิจชนิดหนึ่งของประเทศ และมีแนวโน้มที่จะทวีความสำคัญขึ้นทุกปี เพราะเป็นพืชที่มีศักยภาพในการผลิตและการตลาดสูง สามารถปลูกขึ้นง่าย ลงทุนน้อย ทนต่อสภาพความแห้งแล้งได้ดี เกษตรกรนิยมปลูกงาก่อนและหลังการทำนา หรือหลังจากเก็บเกี่ยวพืชหลัก การปลูกงาทำได้ทั้งในพื้นที่ที่เป็นไร่หรือเป็นนาขึ้นอยู่กับสภาพพื้นที่ของแต่ละท้องถิ่น
ในปัจจุบันประชากรทั่วโลกเริ่มตื่นตัวและเอาใจใส่ในเรื่องเพื่อสุขภาพมากขึ้น โดยเฉพาะชาวจีน เกาหลี ญี่ปุ่น และประเทศในแถบตะวันออกต่างนิยมบริโภคเมล็ดงาและผลิตภัณฑ์จากงาในรูปของอาหารและเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ ทำให้มีผู้ผลิตน้ำมันงาเพิ่มขึ้น ซึ่งการผลิตน้ำมันงาสามารถทำได้หลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการผลิตโดยใช้เครื่องจักร หรือการผลิตแบบธรรมชาติ และแบบประยุกต์ซึ่งเป็นการสกัดน้ำมันงาหรือบีบน้ำมันงาไว้ใช้เอง โดยประยุกต์วิธีดั้งเดิม ได้แก่ การตำหรือบดเมล็ดงาในครกดินเผาและสากหิน การสกัดน้ำมันงาโดยใช้เครื่องหีบน้ำมันขนาดเล็ก การสกัดน้ำมันงาแบบพื้นบ้านของชาวไทยใหญ่จะใช้ครกไม้และใช้วัวในการบดอัดน้ำมัน การสกัดน้ำมันงาโดยใช้ครกไม้และกังหันน้ำ การสกัดน้ำมันงาโดยใช้ครกประยุกต์และใช้ไฟฟ้า สำหรับการผลิตน้ำมันงาในจังหวัดแม่ฮ่องสอน มีทั้งการผลิตแบบใช้เครื่องจักรสมัยใหม่และแบบธรรมชาติ
ในปัจจุบันประชากรทั่วโลกเริ่มตื่นตัวและเอาใจใส่ในเรื่องเพื่อสุขภาพมากขึ้น โดยเฉพาะชาวจีน เกาหลี ญี่ปุ่น และประเทศในแถบตะวันออกต่างนิยมบริโภคเมล็ดงาและผลิตภัณฑ์จากงาในรูปของอาหารและเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ ทำให้มีผู้ผลิตน้ำมันงาเพิ่มขึ้น ซึ่งการผลิตน้ำมันงาสามารถทำได้หลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการผลิตโดยใช้เครื่องจักร หรือการผลิตแบบธรรมชาติ และแบบประยุกต์ซึ่งเป็นการสกัดน้ำมันงาหรือบีบน้ำมันงาไว้ใช้เอง โดยประยุกต์วิธีดั้งเดิม ได้แก่ การตำหรือบดเมล็ดงาในครกดินเผาและสากหิน การสกัดน้ำมันงาโดยใช้เครื่องหีบน้ำมันขนาดเล็ก การสกัดน้ำมันงาแบบพื้นบ้านของชาวไทยใหญ่จะใช้ครกไม้และใช้วัวในการบดอัดน้ำมัน การสกัดน้ำมันงาโดยใช้ครกไม้และกังหันน้ำ การสกัดน้ำมันงาโดยใช้ครกประยุกต์และใช้ไฟฟ้า สำหรับการผลิตน้ำมันงาในจังหวัดแม่ฮ่องสอน มีทั้งการผลิตแบบใช้เครื่องจักรสมัยใหม่และแบบธรรมชาติ